ดวงเจ้าหญิงไดอาน่า

ขอน้อมเชิญพระดวงชะตา แห่งไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์
ถือเป็นดวงครูตั้งไว้เพื่อการเรียนรู้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์
หากมีการผิดพลาดคลาดเคลื่อนใดๆ ขอน้อมอภัยจากเจ้าชะตาไว้ ณ.ที่นี้ด้วยเนื่องจากเราไม่สามารถทราบเวลาประสูติที่แท้จริงได้ ทราบแต่เพียงว่าประสูติ วันที่ 1 กรกฎาคม 2504 ที่เมือง แซนดริงแฮม ประเทศอังกฤษ
จากการศึกษาพระประวัติ จริยาวัตร พร้อมทั้งความเป้นไปต่างๆแล้ว พระนางน่าที่กำเนิดที่เวลา 4.25 น.ของวันนั้น
(เป็นความเห็นส่วนตัว อาจจะไม่ตรงกับท่านอื่นต้องขออภัย)

เลดี้ไดอาน่า สตรีสำคัญคนหนึ่งของโลก

น่าจะมีลัคนาสถิตย์อยู่ที่ราศีเมถุน ที่ประมาณ 11.38.41 องศา คืออยู่ระหว่างดาวที่ทรงคุณภาพสองดาว

คืออาทิตย์อันมีตำแหน่งเป็นราชาโชดที่ 15.44.13 องศานำหน้าลัคนาอยู่ และพุธอันเป็นดาวเกษตร์เจ้าเรือนล้อมหลังลัคนาอยู่ที่ 10.12.3 องศา

ซึ่งทั้งลัคนา +อาทิตย์(ราชาโชด)+พุธ(เกษตร์) ล้วนสถิตย์อยู่ที่อารทรานักษัตร เทวีฤกษ์ทั้งสิ้น พระนางจึงกำเนิดมาเป็นสามัญชนแต่อยู่ในตระกูลชั้นสูงใกล้ชิดกับเชื้อพระวงค์แห่งจักรภพอังกฤษ และมีบุญวาสนาส่งขึ้นไปถึงพระชายาแห่งเจ้าฟ้าชายชาลส์ แห่งเวลส์ กอปร์ทั้งเป็นสตรีที่เด่นดังที่สุดในโลกในศตวรรษ์ที่ 20 ก็ว่าได้

เนื่องจากพระลัคนาสถิตย์อยู่ที่เทวีฤกษ์ราศีเมถุนร่วมกัน อาทิตย์(ราชาโชด โฉลกเฉลา ผลบุญเก่าให้เห็นเป็นสง่า มีอำนาจราชศักดิ์ดุจราชา ไม่ต้องซื้อต้องหาก็มาเอง) และพุธ (ดาวเกษตร์จะเผด็จซึ่งพื้นฐาน วาสนาเป็นปึกแผ่นแน่นหนาไม่พาหมอง)

ผู้ใดมีลัคนาสถิตย์อยู่ที่อาทรานักษัตร ตามตำราท่านว่า

"ส่งผลให้ในวัยเยาว์กำพร้าบิดาหรือมารดา อาจเป้นเพราะบิดามารดาแยกทางกัน ทำให้ไร้ญาติขาดมิตรฝากให้ผูอื่นเลี้ยง แต่ก้ได้รับการฟูมฟักทะนุถนอมอุปถัมภ์เลี้ยงดูอย่างดีให้เติบโตมีพลานามัยดีทั้งร่างกายและจิตใจ ทั้งยังเป็นที่น่ารักน่าเอ็นดูแก่ผู้อื่น ใครเห็นแต่ก็ให้การสนับสนุน ช่วยส่งเสริมให้ประสบความสำเร็จ เป็นผู้ใผ่ใจการศึกษาอย่างดี จนเป็นที่ประจักษ์ในความสามารถ มีชีวิตเจริญรุ่งเรือง ตั้งตนได้อย่างมั่งคง เพียงตั้งแต่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว ผู้หลักผู้ใหญ่มักให้ความรักใคร่เอ็นดู ทั้งยังได้รับการดูแลจากผ้มีอำนาจวาสนาให้สุขสบายไปตลอดชีวิต ผู้ที่เกิดในเทวีฤกษ์จะเป็นผู้ที่งามดังนางพญา นางกษัตริย์ เป็นคนที่มีเสน่ห์ มีกริยาท่วงท่าสง่างาม มีพลังแรงกล้า ยากที่หาผู้ใดต้านทานได้ ซึ่งเป็นไปในทำนองเดียวกับคำว่านางพญา ที่มีกิริยานุ่มนวลแต่แฝงไว้ซึ่งความน่าเกรงขาม เป็นคนรักสวยรักงาม มักมีเพื่อนหรือชอบคบบุคคลเพศหญิง หรือมีธุรกิจกิจการงานที่เกี่ยวข้องกับเพศหญิง..............."


การที่ลัคนาอยู่ที่ราศีเมถุนอันเป็นราศีรูปคน แลมีดาวอาทิตย์(ราชาโชด)และพุธ(เกษตร์เจ้าเรือน)ร่วมนี้ จัดว่าเป็นนระเกณฑ์เต็มพิกัด อันเรียกว่านระเอกเกณฑ์

นระ สุริยะ เรื้อง รังสี
โสระ ชีวะ มี ถูกต้อง
สามองค์เทพโสภี กุมลัคน์
ชาติใดได้ดังพ้อง ยิ่งยศนาพันฯ

หากพิจารณาไปที่ดวงนวางค์จักร ลัคนาที่ดวงนวางค์จะสถิตย์อยู่ที่ราศีมังกรร่วมกับพุธและศุกร์และมีจันทร์เกษตร์นวางค์ร่วมเกตุร่วมพลูโตเล็งอยู่ ส่งให้พระนางเป็นผู้มีสิริโฉมงดงาม เป็นผู้นำแฟชั่นเป็นสัญลักษณ์แห่งความงามแห่งยุด(พลูโต ดาวเจ้ายุดศตวรรษ์ที่ 20 เล็งลัคน์ในนวางค์)

ดวงในนวางค์นี้จัดเป็นดวงมาลัยโยดหรือจันทร์ครึ่งเสียว มีดาวเรียงรายเป็นระยิบระยับ ลัคน์นำหน้าเรียกขับพลหาญ อยู่กลางเรียกคุมพล นำทหารเข้าต่อทำการ อยู่หลังตามพล ตามทหารโห่ร้องเอาชัย

และลัคนาในนวางค์จักรนั้นจัดอยู่ในลักษณะที่เรียกว่า อัมพุเกณฑ์ เนื่องจากมีดาวพฤหสบดีสถิตย์อยู่ที่ภพพันธุ(ภพที่ 4 )จากลัคนาในนวางค์ (พฤหัสสี่ทรงศักดิ์  แช่มช้อย)จุดนี้ที่ส่งผลให้พระนางได้สถาปนาพระอิสริยยศเป็น เจ้าหญิงแห่งเวลส์

อัมพุ ผลจุ่งแจ้ง สี่สถาน
พุธ ศุกร์ ชีวาวาร ส่งสร้อย
จันทร์องค์ประไพพาฬ อดิเรก
แสดงคุณฤาใช่น้อย ยศยิ่งถึงพระยา

เทพีแห่งจันทรา(เทวีฤกษ์)เลดี้ไดอาน่า

ถือกำเนิดมาในตระกูลสกุล สเปนเซอร์ ทรงเป็นธิดาคนสุดท้องของ วิสเคานท์ผู้บิดา(อาทิตย์ ราชาโชดกุมลัคน์) ซึ่งหย่าขาดกับมารดาคือ ออเนอเรเบิลฟรานเซส
พระมารดาได้พยายามที่จะขอมีอำนาจในการปกครองบุตร-ธิดาแต่แพ้ต่อศาล(จันทร์มารดาตกมรณะเป็นประ+เสาร์เกษตร์เจ้าเรือนมรณะ)
อำนาจการปกครองบุตรธิดาจึงตกอยู่กับบิดา (อาทิตย์กุมลัคน์+พุธ)

เลดี้ไดอาน่า มีพี่น้อง 5 คนดังนี้

1.เลดี้ซาราห์ แม็กคอเดล (อลิซาเบล ซาราห์ ลาวินา สเปอร์เซอร์)
ปัจจุบันเป็นประธานมูลนิธิไดอาน่า ตามพระประสงค์ของเจ้าหญิง
(อาทิตย์เจ้าเรือนสหัสชะพี่น้องคนลำดับที่ 1. กุมลัคน์ ร่วมพุธ เจ้าเรือนพันธุ-มูลนิธิ)

2.เลดี้เจน เฟลอว์ ปัจจุบันคือ บารอนเนสเฟเลอร์
(ศุกร์เจ้าเรือนปุตตะ พี้น้องอันดับที่ 2 เป้นเกษตร์เรือนวินาศน์)

3.จอห์น สเปนเซอร์ ถึงแก่กรรมหลังคลอดได้เพียง 10 ชั่วโมง
(พฤหัส เจ้าเรือนปัตนิ พี่น้องลำดับที่ 3. ตกเรือนมรณะราศีมังกร และเป็นมรณะองศาด้วย)

4.เจ้าหญิงแห่งเวลส์

5.เอิร์ลสเปนเซอร์ที่ 9 ผู้สืบทอดวงศ์ตระกูลต่อจากบิดา
(ราหูเจ้าเรือนศุภะ พี่น้องอันดับที่ 4. ลอยไปอยู่เรือนอาทิตย์บิดาและอาทิตย์เป็นราชาโชดกุมลัคน์)

ครอบครัว สเปนเวอร์ใกล้ชิดกับพระราชวงค์มานานแล้ว

เลดี้ฟรอยเมย คุณยาย ( เจ้าเรือนภพปัตนิ มีเกตุลอยอยู่ )
เป็นพระสหายและนางสนองพระโอษฐ์( สหัสชะของเรือนปุตตะ) ในสมเด็จพระราชชนนีอลิซาเบล ( ศุกร์เจ้าเรือนปุตตะ - เพื่อนของยายเป็นเกษตร์เรือนวินาศน์-สนับสนุนเจ้าชะตาอยู่ลับๆ) มาเป็นเวลานาน

ประกอบกับ เจ้าฟ้าชายแห่งเวลส์เคยคบหาอยุ๋กับพี่สาว(อังคารแทนดาวแฟนชายก่อนแต่งงานอยู่ที่ราศีสิงห์เรือนสหัสหะ(พี่สาว)
ทำให้ทรงคุ้นเคยกับไดอาน่าพอสมควร

และเมื่อเจ้าฟ้าชายชาลส์พระชนม์ราว 30 พรรษา สมเด็จพระราชชนนี ทรงพระประสงค์(ศุกร์วินาศน์ลัคนา ผลักดันลับๆ) จะให้พระองค์เอง กับ เลดี้พรอมเมย์ (ยาย)ได้เป็นทองแผ่นเดียวกัน
เจ้าฟ้าชายผู้ทรงรักยายจึงยอมตามพระทัย และพยายามทำให้พระองค์เองคิดว่า ไดอาน่า นี้แหละ คือ สุดยอดผู้หญิงที่เหมาะสมกับพระองค์ และเป็น ผู้หญิงที่พระองค์รัก

ดวงพระชะตาเลดี้ไดอาน่า เทพีแห่งจันทรา มีดาวพฤหัสบดีเจ้าเรือนปัตนิเป็นนิจจภังคะราชาโยคสถิตย์อยู่ที่ภูมิปาโลฤกษ์ ร่วม เสาร์ เกษตร์ ร่วมจันทร์

พฤหัส+เสาร์ ครูท่านทัก มักผิดแผกแยกคู่ดูน่าขัน หมายความว่า ได้คู่ครองที่ไม่ใช่สภาพเดียวกับตน ไม่สูงกว่าก็ต่ำกว่าไปเลย ในกรณีนี้สูงส่งกว่าตนเป็นถึงเจ้าฟ้าเพราะพฤหัสเป็นนิจจภังคะราชาโยค+จันทร์ราศีเดียวกัน ขับดาวพฤหัสให้เป็นอุจจ์อนุโลมขึ้นมาและ

+เสาร์เกษตร์เจ้าเรือน

แต่ดาวทั้งหลายเหล่านี้ไปตกมรณะทั้งสิ้น ชีวิตสมรสของเจ้าหญิงแห่งเวลส์จึงไปได้ไม่ตลอด

การภิเษกสมรส

พระราชพิธีอภิเษกสมรส จัดขึ้นที่โบสถ์เซนตืปอล ในลอนดอน ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2524  ปรากฎการณ์ดวงดาวในวันนี้มีดังนี้

( ๒ จรต้องลัคนา +๑ คู่สามีภรรยา + ๔ ตนุลัคน์/ตนุเกษตร)

(๑ จรเล็ง ๕ คู่มิตร เล็ง ๒ คู่สามีภรรยา )

(๘ เล็ง ๗ คู่มหามิตรบุญญาฤทธิ์สิทธิโชค )

(๖ จร ต้อง ๓ คู่รักคู่เสน่หา เล็ง ๙ จร ) (๙ เป็นดาวลอยที่ภพปัตนิเดิม )

(๕ จร พบ ๗ จร กลางท้องฟ้า สนิทองศา ทั้งคู่กุมกันมาตั้งแต่กำเนิดแล้ว และบังเอิญโคจรมาต้องกันอีกในรอบ 20 ปี)

พระราชพิธียิ่งใหญ่มาก จัดเป็นพระราชพิธีอภิเษกสมรสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในศตวรรษ เป็นพระราชพิธีอภิเษกที่มีการเชิญแขกกว่า 3500 คน(มากที่สุดในโลก) มีผู้ชมงานพระราชพิธีนี้ทั่วโลกหลายร้อยล้านคน

( ๕ + ๗ สนิทองศาราศีจักร์ และ ๕ + ๗ มี ๑ เล็ง ในนวางค์จักร์)

ข้าพเจ้าก็เป็นหนึ่งในหลายร้อยล้านคนที่ได้ชมพระราชพิธีสุดอหังการครั้งนั้นด้วย
และยังคงติดตาตรึงใจมาจนทุกวันนี้

แม้กระทั่ง จีน ซึ่งขณะนั้นกลิ่นไอแห่งลิทธิสีแดงยังเข้มขัน ก็ยังได้รับชมด้วย

ไดอาน่า เป็นหญิงคนแรกในรอบหลายศตวรรษ(กว่า 400 ปี )ที่สมรสกับรัชทายาทแห่งราชบังลังก์อังกฤษ

หลังการอภิเกสมรสแล้วได้รับยศเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ (พฤหัสราชาโชด อัมพุเกณฑ์ในดวงนวางค์จักร์) เป็นสตรีสามัญชนคนแรกที่

เสกสมรสกับเจ้าชายแห่งเวลส์ และเป็นเจ้าหญิงแห่งเวลส์ด้วย (ลัคนา + ๑ ราชาโชด +พุธ เกษตร์ เจ้าเรือนพันธุ(ประเทศ))

เป็นสตรีที่มีพระอิสริยศ เป็นอำดับที่ 3 แห่งฝ่ายในราชวงค์อังกฤษ (ลัคนา+๑+๔ เทวีฤกษ์)รองจาก สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และ สมเด็จพระราชราชชนนีอลิซาเบธ

พระโอรส
เจ้าชายและเจ้าหญิงแห่งเวลส์ มีพระโอรส 2 พระองค์คือ

1. เจ้าชายวิมเลียม แห่งเวลส์ รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งอังกฤษ (ศุกร์เจ้าเรือนปุตตะเป็นเกษตร์เรือนวินาศน์ )

2. เจ้าชายแฮรรี่ แห่งเวลส์ (ถูกโจมตีมากที่สุดว่าเป็นเจ้าชายเจ้าปัญหา ด้วยพระอามรณืรุนแรง หรือ การฉลองพระองค์ไม่เหมาะสม

( ๕ เจ้าเรือนบุตรคนที่2.+ ๗ + ๒ เรือนมรณะ )

ลูกเลี้ยง

นอกจากจะมีโอรส 2 พระองค์แล้ว ยังทรงเป็นแม่ทูลหัวของลูกเลี้ยงอีกถึง 17 คน

( ราหู อยู่ที่เรือนปุตตะในดวงนวางค์จักร เรือน ๖ และ ๖ + ๔ กุมลัคน์นวางค์จักร์
มี ๒ ดาวแห่งความเป็นมารดาเล็ง ๔ ที่ร่วมกุม ๖ เจ้าเรือนปุตตะนั้น มีกำลังดาวเป็น 17 จึงมีลูกเลี้ยง 17 คน )

การดำเนินในชีวิตสมรสของเจ้าหญิงไม่ราบรื่นนัก
ในระยะแรกไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับชื่อชีวิตของความเจ้าหญิงได้ ( ๑ กุมลัคน์ในราศีจักร์ และ กุมเสาร์ในนวางค์จักร )

และทุกข์ทรมาณจากโรค bulimia ( มฤตยู เล็งจันทร์+เสาร์+พฤหัส)

ในระยะ 5 ปีต่อมา ความสัมพันธ์เริ่มตกต่ำลง ลือกันว่าเพราะพระสวามีทนเห็นพระชายาได้รับการชื่มชมมากกว่าไม่ค่อยได้

(ลั + ๑ ราชาโชด +๔ เกษตร์ เทวีฤกษ์ราศีเมถุน (ราศีแห่งสังคม )
เหนือกว่า
๕ นิจ +๒ ประ + ๗ เกษตร ภูมิปาโลและโจโรฤกษ์ เรือนมรณะ ราศีมังกร)

จนประกาศเรื่องการหย่าร้างในปี 2538

ชีวิตสมรสที่ต้องหย่าร้าง เพราะ ๒ +๗ คู่หม้าย คู่ร้าง
๗ + ๕ คู่ศัตรูความคิดเห็น การไม่ลงรอยกัน
๒+๕ คู่ชู้
และดาวเจ้าเรือนตกมรณะ

และเป็นที่น่าสังเกตุว่า

วันที่มีพิธีอภิเษกนั้น

๕ และ ๗ ดาวคู่ศัตรูกุมกันสนิมองศาบนท้องฟ้าพอดี
๘ จรก็เล็ง ๒ คู่วุ่นวาย แปรปวน + ๕ คู่สัตรู คู๋ผิดหวัง
๖ จรทับ ๘ เดิมคู่รักวุ่นวายผิดหวัง
๓ จรทับลัคนา + อาทิตย์คู่ปะทะ + ๔ คู่วิวาท และ เกณฑ์แปดมาที่ ๒ คู่ชู้ +เสาร์คู่แตกหัก

วาระสุดท้ายแห่งชีวิต

วันที่ 30 สิงหาคม 2540 เวลาก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อย รถยนต์พระที่นั่งได้เกิดอุบัติเหตุในอุโมงค์ Point De alma ลอดใต้แม่น้ำเซน กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส   และ อุบัติเหตุทำให้เจ้าหญิงสิ้นพระชนม์ในเวลา ประมาณ 3.50 นาฬิกาของคืนวันที่ 31 สิงหาคม 2540

วิเคราะห์เรื่องการสิ้นพระชนม์ด้วยอุบัติเหตุรถยนต์(ยานยนต์)จนทำให้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร ตามหลักโหราศาสตร์ ดังนี้

1. ดาวมฤตยูเป็นศูนย์พาหนะนำหน้าลัคนา(ดาวที่นำพาเจ้าชะตาให้เป็นไป)

มฤตยู เป็นดาวที่องศาที่สุดในดวงชะตาที่เรียกว่าดวงอาตมการก(ถือเป็นดาวที่อิทธิพลบ่งชี้ความเป็นไปของเจ้าชะตา)

มฤตยูอยู่ที่ 29.59.15 ราศีกรกฎ สถิตย์อยู่ที่ปลายราศีธาตุน้ำในนวางค์ที่เรียกว่า นวางค์ขาด นวางค์เรือนพฤหัสราศีมีน (เกิดเหตุใต้น้ำ ที่อุโมงค์ )

มฤตยู เป็นดาวแห่งความตาย อุบัติเหตุร้ายแรงจากความเร็ว
เมื่อ ๐ อยู่ที่ราศีกรกฏในราศีจักรเรือนจันทร์  อันเป็นเรือนพันธุ(ยานพาหนะ)ของโลก จึงเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุจากยานยนต์

2.จันทร์เป็นเจ้าเรือนยานพาหนะ(พันธุ)และเรือนบ้านเกิดเมืองนอนของโลก
จันทร์ในดวงพระชะตาไปตกเรือนมรณะ(ความตาย)เป็นดาวพินทุบาทว์   เป็นปรเกษตร (ต่างประเทศ ไม่ใช่บ้านเกิด)
(จันทร์+เกตุในนวางค์ก็ต่างประเทศอีก)

มฤตยู และ จันทร์ แต่ต้องตรียางค์พิษสุนัขบ้า (ภัยทางบก) ด้วยกันทั้งคู่

จันทร์ไปอยู่เรือนเสาร์และร่วมกับเสาร์เจ้าเรือนมรณะ(ความตาย)
เป็นคู่ดาวแห่งความสูญเสียพลัดพราก
และร่วมกับพฤหัส (๒ + ๕ คู่ชู้)

3.พฤหัสเป็นดาวแห่งศุภะ(ต่างประเทศ) และวินาสน์ (ที่ลับ (อุโมงค์)ของโลก
พฤหัสในดวงเป็นนิจร่วมเสาร์คู่ศัตรูแตกหัก อยู่ในเรือนมรณะ
และเหนืออื่นใด พฤหัสนี้ยังเป็นดาวพินธุบาทว์ และเป็นดาวมรณะองศาด้วย

จันทร์กับชีวาเป็นแปด โทษแท้ประเหินหิน

เหตุการณ์ดาวจรในวันที่สิ้นพระชนม์

เกตุ จรทับ ลัคน์+อาทิตย์+พุธ
ศุกร์เจ้าเรือนวินาสน์จรเป็นนิจที่เรือนพันธุ(ยานพาหนะ)
เสาร์ดาวเจ้าเรือนมรณะลอยอยุ่กลางฟ้า (ภพสิบ)ดวงกำเนิด
จันทร์ดาวลอยในเรือนมรณะจรไปหาดาวมฤตยูเดิม
พฤหัสดาวลอยในเรือนมรณะเดิมและดาวต้องมรณะองศาเข้าทับจันทร์+เสาร์ + พฤหัสเดิม ร่วม มฤตยู และ เนปจูน จร

อาทิตย์ ปะทะ อังคาร
 พุธนงคราญ ปะทะ ราหู 
 ศุกร์ เล็ง เสาร์เสี่ยนศัตรู
 พฤหัสครู  อยู่มรณา

ราหูจรทับราหูและอังคารเดิม

พิจารณาตามหลักวิมโษตตรีทศา

อายุชะตา 36 ปี 1 เดือน

ดาวพฤหัสเสวย ( พฤหัสเป็นนิจในเรือนมรณะ เป็นดาวต้องมรณะองศา )
ดาวศุกร์แทรก ( ศุกร์เป็นดาวเจ้าเกษตรเรือนวินาสน์และอยู่ในเรือนวินาสน์
ศุกร์เป็นดาวเจ้านวางค์มรณะ)
เกตุวิแทรก
เกตุวิย่อยแทรก (เกตุดาวแห่งความเร็ว)

และในวันเกิดเหตุ

ดาวพุธ    ดาวตนุลัคน์ ( ตัวเจ้าชะตาเอง )  และดาวดาวเจ้าเรือนพันธุ ภพสี่  หมายถึง  ยานพาหนะ

 พุธ  ( ตนุลัคน์ และ ยานพาหนะ )   เกิดอาการวิกลคติ  เดินพักร์องศา และ เข้าสู่จุดดับ  เพราะ พุธ ถอยมา กุม อาทิตย์ เกือบสนิทองศา ในเรือนสหัสชะ  ( ภพแห่งเพื่อน และ การเดินทาง  ในเรือนของอาทิตย์เอง  และยังเป็นจุดที่เป็นวรโคตมนวางค์ทั้งคุ๋ ( ทั้ง ๑ และ ๔ )กับทั้งต้องพิษครุฑ ( ภัยแห่งความเร็ว )ในตรียางค์ด้วย

บ่งบอกว่า  เจ้าชะตาต้องเกิดอุบัติเหตุจากยานพาหนะร่วมกับเพือนในระหว่างเดินทางอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้านนั่นเอง

หากพิจารณาไปที่ดวงนวางค์จักร  ในวันที่เกิดเหตุ  
ลัคน์ในนวางค์จักร์จร อยู่ที่ราศีพิจิก

มีราหู เจ้าเรือนพันธุ ( ยานพาหนะ ) กุม  สลับกันดาวอังคารดาวเจ้าเรือนลัคน์ในนวางค์จักร์จร  ที่ไปอยู่ที่ราศีกุมภ์  ภพสี่  ร่วมกับ เสาร์  คู่ศัตรู คุ๋อุบัติเหตุ รุนแรง  ในภพสี่  จึงเกิดอุบัติเหตุรุนแรงจากยาหนะจนพังยับเยิน

และเสาร์เป็นดาวเจ้าเรือนสหัชหะ  ก็หมายเพื่อน  และ การเดินทางในประเทศเพื่อนบ้านด้วย

กับทั้ง ๓+๗ ในนวางค์จร  ทับ  ๑+๗ ในนวางค์จักร์กำเนิดด้วย

เจ้าชะตาจึงสิ้นพระชนม์ลงด้วยเหตุดังกล่าว

ยังความโศกสลดกำสรวลคร่ำครวญถวิลหา
เทพีแห่งจันทรา นางฟ้าแห่งชาวโลกยุดศตวรรษที่ 20

ด้วยเหตุดังพรรณา มาด้วยวิชาโหราศาสตร์ประสานเข้ากับเหตุการณ์ในชีวิตจริง

ดั่งที่ได้วิสัชนามาก็คงจะสมควรแก่เหตุ
คงจะปฎิเวทวินิจฉัยให้ผู้ใฝ่ใจในศาสตร์แห่งโหรา
และ ท่านผู้อ่านพบประสบเจอได้รับประโยชน์บ้างต่างควรแห่งปัญญา

ก็ขอสมมุติยุติการวินิจจัยพระชะตาแห่งเจ้าหญิงไดอาน่า
อันบรรจบครบรอบ 10 ปีแห่งการจากชาวโลกไปของเจ้านางในวันนี้
ของข้าพเจ้าผู้ใช้นามปากกาว่า เวหา ไว้แต่เพียงเท่านี้


เมื่อได้พิจารณาจากชะตาและชีวิตจริง ของเจ้าหญิงไดอาน่า เทพีแห่งจันทรา นางฟ้าแห่งยุดศตวรรษ์ที่ 20 แล้ว

ก็คงพอเป้นเครื่องคิดสะกิดใจ เราได้บ้างในมุมมองที่ว่า

มนุษย์ ทุกรูปทุกนาม ทุกชนชาติเหล่าภาษา ไม่ว่าสูงเทียมฟ้าหรือต่ำเพียงดิน
ล้วนเป็นไปภายใต้กฎแห่งวัฎฎสังสาร เป็นไปตามกฎแห่งกรรม ถูกครอบงำไปด้วยทุกขัง อนิจจัง อนัตตา ทั้งสิ้น

หาใครจักสุขสมบูรณ์ไปได้ทุกอย่างไม่

ขอท่านที่คิดว่าตนเองมีทุกข์เวทนาสาหัสสากรรณ์อย่างนั้นอย่างนี้

โปรดพิจารณาให้ดีเทอญ์ว่า
แม้ผู้มีบุญหนักศักดิ์สูงเปรียบนางฟ้าอย่างเจ้าหญิงไดอาน่า ยังต้องมีความเป็นไปแห่งชะตาดั่งที่เราท่านได้ทราบมากันอยู่

ดั่งนี้แล้ว เราท่านทั้งหลายก็สมควรพร้อมทั้งกายทั้งใจที่จะดำเนินชีวิตไปด้วยสติและ ปัญญา ที่จะเข้าถึงความหลุดพ้นเหนือทุกข์ (คือตัวปัญหา ) ทั้งมวลเทอญ์


ขอคุณงามความดีที่เจ้าหญิงได้ทรงบำเพ็ญแล้วเป็นภัทรปัจจัยให้พระนางทรงสถิตย์ ณ.แดนสุขในสัมปรายภพเทอญ์

และคุณแห่งวิทยาทาน ที่ข้าพเจ้าได้วินิจลิขิตมานี้หากดีมีประโยชน์

ขอน้อมอุทิศแด่ท่านบูรพาท่านอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร
ขุนเชี่ยวเชิงการ( ชาญ อินทรโชติ)
หลวงตาสงวน วัดมะนาวหวาน นครศรีรรมราช
ท่านอาจารย์พลูหลวง
ท่านโหรแฉล้ม เลี่ยมเพชรัตน์
ท่านอาจารย์สมัย วงศาโรจน์
และท่านครูอาจารย์ทุกท่านที่มิได้เอยนาม

หากผิดพลาดคลาดเคลื่อน ข้าพเจ้า ( เวหา )ขออภัยต่อเจ้าชะตามา ณ. โอกาสนี้

ที่มา  http://www.paisalvision.com/content/2008-12-08-03-15-07/2851-2009-09-01-02-57-42.html

ดูดวงปี 2554 กับ โสรัจจะ นวลอยู่

โสรัจจะ ทายเสียว!ปี54 หายนะกว่าปีนี้ ไทยมีสิทธิ สิ้นแผ่นดิน? โลกวิปริตอาเพศใหญ่หลวง ตายเป็นเบือ

กลายเป็นที่ฮือฮาทั่วบ้านทั่วเมือง เมื่อ คำพยากรณ์ที่บ่งบอกความ หายนะ หลากหลายด้านในประเทศไทย ของ โสรัจจะ นวลอยู่  อีกหนึ่งสุดยอดโหราจารย์ชื่อก้อง  ที่เปรียบดั่ง นอสตราดามุสเมืองไทย 

            ในหนังสือดัง ศาสตร์แห่งโหร 2553  ได้เกิดเหตุการณ์วิกฤต และความวิปโยคอย่างค่อนข้างแม่นยำและใกล้เคียง จนน่าสะพรึงกลัว  ไม่ว่าจะเป็น เหตุวุ่นวายทางด้านการเมืองที่ถึงขั้นนองเลือด สูญเสียชีวิตประชาชนไปเป็นจำนวนไม่น้อย เมื่อช่วงเดือนเมษายน-พฤาภาคมที่ผ่านมา  ที่ คนไทยแตกความสามัคคี  ถึงขั้นเผาบ้านเผาเมือง   การตายหมู่จากเครื่องบิน รถยนต์ ฯลฯ และที่กำลังเกิดขึ้นอยู่สดๆ ร้อนๆ คือ มหันตภัยน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือ กลาง อีสาน และกำลังใกล้เข้าสู่กรุงเทพฯ ขึ้นทุกที  สร้างความเดือดร้อน และยัดเยียดความทุกข์ยากให้กับราษฎรไปทุกหย่อมหญ้า

             พยากรณ์ดวงเมือง ประจำปีเถาะ พ.ศ. 2554  ในหนังสือ ศาสตร์แห่งโหร ฉบับพิเศษ   รู้ทันดวงกับโหรดัง 2554  คราวนี้ โสรัจจะ  ก็ได้เขียนคำทำนายชะตากรรม ของโลก มวลมนุษยชาติ และชาติไทย ที่ต้องเผชิญวิปริตอาเพศซึ่งมีมากกว่าปีที่ผ่านมาว่า อย่างใหญ่หลวง ดั่งไฟนรกโลกันต์ลามเลียให้วอดวาย ฉิบหายกันถ้วนหน้าไม่แพ้ ปีเสือบ้าเลือดเช่นกัน 


             บางส่วนจาก หนังสือ  ศาสตร์แห่งโหร 2554  โสรัจจะ ระบุคำพพยากรณ์ดวงเมือง(ไทย)ไว้ว่า ดาวสีเลือดได้รับแสงจากดวงมฤตยูในช่วงเดือนมีนาคม 2554  เป็นดาวปฏิวัตินองเลือดในมุมร่วมธาตุ ย่อมเกิดสภาพการเดิอดพลุ่งพล่านไม่สงบ เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เกิดศึกสงครามทั้งภายในและภายนอก เกิดความยุ่งยากทางการเมืองขนาดหนัก แต่ยังน้อยกว่า มหันตภัยที่สุดมหาหฤโหดไปทั่วโลก ซึ่งจะทำให้โลกเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วทุกสิ่งอย่างไม่เหมือนเดิม... 

             น้ำในแม่น้ำและคลองทั้งปวงจะแดงเป็นโลหิต เมฆและท้องฟ้าจะแดงเป็นแสงไฟ แผ่นดินไหวสั่นสะเทือน ฤดูหนาวจะเป็นฤดูร้อน ที่ลุ่มจะกลับดอน ที่ดอนจะกลับลุ่ม โรคภัยจะเบียดเบียนสัตว์และมนุษย์ทั้งปวง มนุษย์หนึ่งในสี่ของโลกจะพลันตายลง จะเกิดข้าวยากหมากแพง ฝูงมนุษย์จะอดอยาก เสื้อเมืองทรงทรงเมืองจะหลีกเลี่ยง  

             ในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้า กรุงเทพฯ และทั่วทุกภาคทุกจังหวัดจะถูกน้ำท่วมไปหมด ที่เกิดจากน้ำทะเลไหลทะลักเข้ามา และเกิดจากอุทกภัยอีกหลายครั้งจนต้องอพยพผู้คนหนีน้ำขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ เกือบสุดเขตแดนไทย เมื่อนั้นคนไทยก็คงไร้สิ้นแผ่นดินได้?  
จะเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 100 ปี ไข้หวัดนก หรือไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาตนเองแพร่จากสัตว์มาสู่คนและคนนำพาให้คนเสียชีวิตจำนวนมาก เชื้อโรคจะแพร่ขยายทางอากาศไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเชื้อนรกนี้ได้  


             ปลายเดือนธันวาคม พระเสาร์ย้ายเข้าเล็งดวงเมืองทำให้บางประเทศหนาวเย็นจนอยู่ไม่ได้ ผู้คนล้มตายมาก  เมืองไทยจะเกิดอากาศร้อนจัดและหนาวจัดในเดือนเดียวกัน วิกฤตสุดรอบ 1,000ปี  กรุงเทพฯจะมีหิมะตก... 

             ปีเถาะ 2554 เป็นปีที่ต้องต่อสู้กันทรหด ทั้งการเมืองและเศรษฐกิจ  ใครก็ตามที่เป็นรัฐบาลต้องเผชิญวิกฤตการณ์รุนแรงที่สุด  ฝ่ายค้านจะแย่งอำนาจ คนในเครื่องแบบจะรอให้ทั้งสองฝ่ายเพลี่ยงพล้ำลง  ส่วนประชาชนตาดำๆ และยากจนก็จะหวาดผวา  ปัญหาคอร์รัปชั่นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ  ตั้งแต่ต้นปี   ถึงขนาดรัฐบาลต้องมีอันเป็นไป 


           ...เหตุการณ์ของประเทศจะพลิกผันอย่างที่ไม่เคยเห็น และจะเกิดความว่างเปล่า ไม่มีนักการเมืองพรรคใดหลงเหลืออยู่ ระบบพรรคการเมืองจะสูญสิ้นไปจากประวัติศาสตร์การเมืองไทย 

             ผู้เป็นใหญ่และผู้คนสำคัญจะร่วงหล่นกันมาก อำนาจเก่าๆ ของคนเก่าๆ เสื่อมถอย จะมีเหตุการณ์นองเลือดรุนแรงเกิดขึ้น ประมาทมิได้ กลุ่มชน ฝูงชน อาจจะเคลื่อนไหวด้วยการสนับสนุนของผู้มีอำนาจเก่าอย่างเร้นลับ 

             นักการเมืองชั่วพึงระวังเอาไว้ ถึงเวลานั้นประชาชนอาจลุกฮือขึ้นมาฆ่าเองโดยไม่แคร์ขื่อแปบ้านเมือง ดวงของบ้านเมืองใกล้ถึงจุดนี้แล้ว ... 
ดาวอังคารสีเลือดย้ายเข้าสู่ราศีมีน เล็งดาวพระเสาร์ เดือนมีนาคมและเดือนเมษายน ปี 55 จะมีลางร้ายบอกเหตุล่วงหน้า  การเมืองรุนแรงเหมือนพายเรือในอ่าง วนเวียนซ้ำไปมาเหมือนปีก่อนๆ  ประชาชนชุมนุมเป็นเรือนแสนตามท้องถนน  เกิดขึ้นจากความโกรธแค้นและรู้ทันความเคลือบแคลงของรัฐบาล  ซ้ำยังเกิดจลาจลเผาเมือง สถานที่สำคัญต่างๆ ของรัฐบาล  รถถัง รถปราบจลาจล  ทั้งในกรุงเทพฯและปริมณฑล ถูกเผายับเยิน ผู้คนล้มตายมหาศาล ผ่านไปหลายเดือนกว่าจะสงบ   คนในเครื่องแบบแตกแยก เกิดเป็นสงครามกลางเมือง เลือดไทยต้องไหลรินนองแผ่นดิน เป็นหนทางสู่ ปฏิวัติรัฐประหาร ใหญ่อีกครั้งเรียกว่า  เหตุร้ายหนักกว่า ในเดือนพ.ค.  53 


             เดือน ก.ค. ความสัมพันธ์ประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่ภาววะยุ่งเหยิง ขอให้ทุกฝ่ายสมานสามัคคี อย่าแตกแยกไม่งั้นศัตรู ซึ่งเป็นหอกข้างแคร่ จะหาโอกาสจ้องทำลาย แต่ถ้ามีเหตุรุนแรงไทยจะไม่เสียเอกราชแน่ แต่จะเสียเลือดเนื้อไปมาก 


             ด้านเศรษฐกิจ เรียกว่าเป็นปีหายนะทางด้านเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ยังไม่สามารถแก้ไขให้ดีขึ้น ประชาชนเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า  ธนาคารแต่ละแห่งแตกแยกหนัก ทั้งเล็กใหญ่ปิดตัว หุ้นร่วงตลอดปี 


             ปัญหาภาคใต้ยังยิง-ลอบวางระเบิดไม่หยุด สหประชาชาติสะเทือน   ผู้ก่อการร้ายใช้อาวุธมีอานุภาพสูงจากภายนอกเข้ามาประกาศแบ่งแยกดินแดน ดวงผู้นำประเทศอ่อนแรง เป็นช่องให้ถูกทำร้าย.

ขณะที่ กรหริศ บัวสรวง  ผู้อำนวยการสถาบันพยากรณ์องค์รวม  ซึ่งเคยพยากรณ์  นักการเมืองถูกฟ้องร้องเป็นคดีความ บุคคลสำคัญทางการเมืองถูกลอบทำร้าย สภาผู้แทนกลายเป็นเวทีแห่งความขัดแย้ง   วงการบันเทิงดารา นักร้อง นักแสดงชื่อดังจะเสียชื่อเสียง ไปเมื่อ ปี 53  ที่ผ่านมา จนเป็นที่กล่าวขานไปเช่นกัน ก็ทำนายสถานการณ์ต่างๆ ในปี 2554 เช่นกันว่า ปีนี้ เปรียบเหมือนเป็น กระต่ายที่ตื่นเต้นลุกลี้ลุกลน  เป็นจุดหัวเลี้ยวหัวต่อของดวงเมืองซึ่งแย่งชิงอำนาจกันไม่ลดละ ถือเป็นอันตรายในระบอบประชาธิปไตย  ดวงเมืองจะสงบสุขร่มเย็นแค่ 5 เดือนเท่านั้น พร้อมกับเตือนรัฐบาล ภายใต้การนำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ว่า ถ้าไม่สามารถเข้าถึงคนไทยส่วนใหญ่ได้  โอกาสการก้าวสู่สิ่งที่ดีในอนาคตอาจหลุดลอยไป 

             ขณะที่นักการเมืองที่สร้างความอัปยศ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเมืองจะพลาดโอกาสได้รับการเลือกตั้ง แต่คนที่มีคุณธรรม จริญธรรมมีโอกาสก้าวเข้ามาเป็นผู้นำคนใหม่ได้สูง ส่วนเหตุการณ์ไม่ปกติ วุ่นวาย จะอยู่ในระหว่างเดือนกันยายนถึงตุลาคม  เกษตรกร หรือผู้ใช้แรงงานอาจมาชุมนุมประท้วง วงการทหาร ตำรวจเกิดความขัดแย้ง 


             กรหริศ ทำนายภาพรวมเศรษฐกิจใน ปี 54 ว่า  การลงทุนดีเกือบตลอดทั้งปี แต่ภาคอุตสาหกรรมต้องแบกรับภาระ ปชช.เดือดร้อน  แต่ธุรกิจประเภทการสื่อสารทุกประเภท ทั้งโทรศัพท์ โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม สังคมออนไลน์ จะมีการแข่งจขันสูง  การท่องเที่ยวโกยผลกำไร  อหังสาริมทรัพย์ขยายตัว คนกทม.เล็งหาที่อยู่ใหม่หลีกปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในอนาคต  เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่จะหันมาทำความดี  คนในสังคมร่วมกิจกรรมจิตอาสามากขึ้น แต่ในปลายปีอาจมีความเศร้าโศก สะเทือนใจจากการจากไปของบุคคลสำคัญ

ที่มา  http://www.mumdochata.com/webboard/index.php?topic=61.0

ความหมายของดาวที่เล็งลัคนา

ความหมายของดาวที่เล็งลัคนา

ดาวที่อยู่ตรงกันข้ามกับลัคนาเรียกว่า ดาวเล็งลัคน์  ถ้าเรานับจากลัคนาไป 7 ราศี ก็จะตรงกันข้ามพอดี ดาวที่อยู่ตรงกันข้ามกับลัคนา ซึ่งมีความหมายต่างกันไป ดังนี้ ดาว ๑ ดาวอาทิตย์ที่เล็งลัคนา หมายถึง บุคคลที่มีความคิดเห็นขัดแย้งกับบุคคลที่เหนือกว่า เป็นคนที่ชอบเก็บตัว ชอบสร้างงาน ชอบงานที่อิสระ ชอบที่จะบังคับตนเองมากกว่าที่จะให้คนอื่นมาบังคับมีความคิดเห็นเป็นของตัว เองค่อนข้างสูงมาก แต่ความคิดที่ฟุ้ง คือ คิดจากเรื่องหนึ่งสู่อีกเรื่องหนึ่งตลอดเวลา ดาว ๒ ดาวจันทร์ที่เล็งลัคนา ปกติเป็นดาวที่อ่อนไหวง่าย เป็นดาวที่สวยงามเป็นดาวที่มีความสะเทือนใจ นุ่มนวลสดชื่น แต่พอมาเล็งลัคนาต้องถือว่าอยู่ตรงกันข้ามเรียกว่าดวงขัดแย้ง นิสัยตรงกันข้ามใครก็ตามที่มีดาวจันทร์เล็งลัคน์จะเงียบขรึมไม่นุ่มนวล ไม่สดชื่น เหมือนกับแบกภาระอยู่ตลอดเวลา และค่อนข้างจะชาเย็นด้วยซ้ำไปไม่ดูอ่อนหวานนุ่มนวล ดาว ๓ ดาวอังคารที่เล็งลัคนา เป็นดาวที่ไม่ค่อยเอาเรื่องเอาราวกับใคร เพราะปกติดาวอังคารเป็นดาวที่กล้า ขยัน มีปฏิภาณดี มีเชาว์ดี กระฉับกระเฉง ฉลาด แต่พอมาอยู่ตรงกันข้ามกับลัคนา ไม่ใช่โง่จะเป็นคนลุ่มหลงอะไรได้ง่าย คนที่เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่มีปฏิภาณ ขาดความกระตือรือร้น และไม่ชอบต่อสู้เพื่อได้มาในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ดาว ๔ ดาวพุธที่เล็งลัคนา ปกติเป็นดาวแห่งสมอง ดาวแห่งปัญญา ดาวแห่งการสังเกต เป็นดาวแห่งสติด้วย พูดจาก็ดี สมาคมก็ดี แต่ไปอยู่ตรงกันข้ามกับลัคนา ทำให้เป็นคนขาดรายละเอียด เป็นผู้ตามถึงจะดี ลุ่มหลงอะไรได้ง่าย ตกอยู่ภายใต้ความมัวเมาก็ง่าย ขาดสติก็ง่าย ควรต้องคบมิตรดี ดาว ๕ ดาวพฤหัสที่เล็งลัคนา เป็นดาวประธานฝ่ายดี ฝ่ายคุณธรรม มีความอุดมสมบูรณ์ เปิดเผยโผงผาง จริงใจ ชอบในการศึกษา ผู้ใหญ่ก็รัก มีผู้อุปการะอุปถัมภ์ แต่พอไปอยู่ตรงกันข้ามกับลัคนาทำให้มีความคิดแตกไปจากคนอื่นเหมือนกันขัดแย้งก็ไม่เชิง มีความคิดเห็นแตกต่างไปจากคนอื่น ชอบเปลี่ยนแปลงแก้ไขทฤษฏีต่างๆ ไม่เชื่อในครูเรียกว่านอกครู อาจหลงผิดได้ง่าย แต่ถ้าดาวพฤหัสดวงนี้ไม่อยู่ตรงกันข้ามไปอยู่คู่กับมฤตยูกลับคิดสร้างสรรค์ในสิ่งที่ดี  แต่ถ้ามีดาวพฤหัสดวงเดียวคืออาจจะไม่เชื่อครูคิดอะไรที่เพิ่มเติมเติบไปกว่าเดิมคิดอะไรแปลกเปลี่ยนแปลงแก้ไขและชอบไปขัดแย้งกับคนอื่น แต่ก็ไม่ถึงกับก่อศัตรูเพราะดาวพฤหัสไม่ใช่ดาวร้ายมีแต่ความคิดเห็นที่ผิดเพี้ยนไปจากคนอื่น ดาว ๖ ดาวศุกร์ที่เล็งลัคนา ปกติก็สอนกันมาว่าดาวศุกร์เจ็ดเจ้าท่านว่าร้อนนิรันดร์ หมายความว่าศุกร์อยู่ในเรือนที่ 7 ตรงกันข้ามกับลัคนา มีแฟนเยอะ เจ้าชู้ ปกติดาวศุกร์เป็นดาวสดชื่น วัยรุ่น มีชีวิตรักสมบูรณ์ดี มีลาภผล พอมาเล็งลัคนาก็ส่งผลตรงกันข้าม ในลักษณะที่ลุ่มร้อนไม่มีความสุข มีความทุกข์ มีลาภผลก็ต้องจ่ายออกไป เป็นเสน่ห์แก่ผู้พบเห็นก็จริง แต่เป็นเสน่ห์ที่นำความร้อนมาสู่เจ้าของ ดาว ๗ ดาวเสาร์ที่เล็งลัคนา ดาวเสาร์เป็นดาวทุกข์และดาวโทษ ดาวกรรมกร มักส่งความอุปสรรคยากแค้นเดือดร้อนต่างๆ ให้กับเจ้าชะตา ในสมัยโบราณมองว่าถ้าดาวเสาร์กับดาวราหูเล็งลัคน์เป็นภินทุบาทว์ หรือเรียกว่าดวงแตกยังถือว่าใครเจอดาวอย่างนี้ให้หลีกเลี่ยงในการเดินทางไปอยู่ถิ่นอื่นคืออย่าอยู่ที่เดิม เกิดที่ไหนไปได้ดีที่ถิ่นอื่น ดวงแรงเกินไป ต้องไปๆ มาๆ อยู่เป็นที่ไม่ได้ เหมือนโดนฟ้าผ่าอยู่ตลอดเวลา ต้องหลบให้ดีต้องเดินทางไปโน่นไปนี่อยู่ตลอดเวลา แต่ ณ ในมุมกลับกัน ถ้ามีดาวบาปเคราะห์เล็งลัคน์ ก็มีข้อดีอยู่บอกว่าให้ทายดาวกันข้าม หมายถึงเป็นคนที่อ่อนโยน อ่อนไหวต้องเป็นคนที่สะเทือนใจง่ายที่เขาบอกว่าต้องภินทุบาทว์ อาจจะเป็นไปได้อาจจะเชื่อคนง่ายก็ได้ ในส่วนลึกของคนที่มีดาวเสาร์และดาวราหูเล็งคือเป็นบุคคลที่มีความอ่อนโยนนั่นเอง เชื่อคนง่าย ลุ่มหลงอะไรได้ง่าย ตกอยู่ภายใต้สิ่งที่มึนเมาแล้วก็ขาดสติ ดาว ๙ ดาวเกตุที่เล็งลัคนา เหมือนกับเสาร์กับราหูเล็ง ทายแบบเดียวกัน ดาว 0 ดาวมฤตยูที่เล็งลัคนา เป็นดาวที่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว ปกติเป็นดาวแห่งการปฏิวัติ ดาวโจร ดาวแห่งการคิดค้น การค้นคว้า การเดินทาง การไปต่างแดน การไปต่างประเทศ พอมาเล็งลัคนาจะเกิดผลตรงกันข้าม เช่นเดียวกับดาวเนปจูนและดาวพลูโต คือมีผลมีเพื่อนฝูงเยอะ ชอบคบคนทั่วไป เป็นคนสังคมเปิดเผย เป็นคนที่มีความคิดที่ไม่กว้างไม่ไกล ไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ความคิดจะอยู่วนเวียนรอบๆ กับพรรคพวก พวกพ้องของตนเอง ดาวมฤตยูก็เช่นเดียวกับดาวเนปจูนและดาวพลูโต ถ้าเล็งลัคน์ จะเป็นคนที่ไม่ยอมนับถือใครง่ายๆ ถือว่าตนเองมีความรู้ดี มีความคิดที่มากกว่า ฉะนั้นคนที่มีดาวมฤตยู ดาวเนปจูน หรือดาวพลูโต เป็นคนพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เป็นคนที่เป็นผู้ใหญ่เกินอายุก็ว่าได้

ดาวกุมลัคนา

ดาวกุมลัคนา

ดาวกุมลัคนา เคยพูดไว้แล้วว่าให้คุณแก่เจ้าชะตาไม่มีเสีย จะกุมในราศีใดก็ตาม จะเป็นกาลกิณี หรือ ประ นิจ ก็ตาม จะเป็นกาลกิณี หรือเป็นนิจก็ตาม ให้คุณทางวาสนาไม่เกี่ยวด้วยเรื่องอุปนิสัยใจคอ ตำราได้พยากรณ์ไว้รายพระเคราะห์ ดังนี้ เป็นคำกลอน อาทิตย์กุมลัคนาในราศี มากชู้หลายเมียไม่เสียที ปัญญาดี ทรัพย์ร้อนไม่ยืนนาน จะต้องจากพ่อแม่แต่เยาว์นัก น้ำใจรักเสพสุราใจกล้าหาญ มีพรรคพวกเพื่อนตายร่วมวายปราณ ทั้งยศศักดิ์บริวารท่านทายตรง มักจะมีผิวเนื้อดำแดง นัยน์ตางาม พูดจาไพเราะ โกรธง่ายหายเร็วจะมีมากหรือน้อยควรพิจารณาดูว่า อาทิตย์เป็นเกษตร อุจ อย่างไร เป็นต้น และเป็นอะไรในมหาทักษา จันทร์กุมลัคนา ท่านทายทำนายพร้อง ว่าสิ่งของมั่งคั่งดังประสงค์ชอบซื้อขายค้าปัญญายง เกศาบางรูปทรงสวยดี อุดมโชคโภคทรัพย์สมบัตินัก รวยลูกรักภริยาทั้งทาสี มักฉลาดเจรจาปัญญาดี เสียแต่ที่โรคประจำให้รำคาญ มักจะมีผิวเนื้อขาว ท่าทางอ่อนโยน ผมบาง ใจอ่อน พูดจาไพเราะ  อังคารกุมลัคนา ท่านกล่าวว่ามือเท้าทั้งสองข้างจะมีไฝ ทั้งรูปร่างไซร้เรียวรัดสันทัดคน จะมียศถึงเสนาบดี แต่รูปมักจะไม่งามตามประสงค์ทั้งยศศักดิ์นั้นก็มักไม่ยืนยง จะอาจองสงครามไม่คร้ามใคร เป็นหญิงเอาผัวเขาพรางเอาของท่าน มักจะมีผิวเนื้อดำแดง เดินเหินไว ใจคงองอาจกล้าหาญ มีความขยันและมานะอดทนมาก พุธกุมลัคนา นัยน์ตาเหลือง ปัญญาเรืองช่างกล่าวอนุสนธิ์ เมื่อยังเยาว์ตกถึงสายชล เบื้องขวาตนแผลปานไฝจะไม่ดี อุดมโชคโภคทรัพย์สมบัตินัก นักปราชญ์รักสรรเสริญเจริญศรี ฉลาดช่างเจรจาปัญญาดีเสียแต่ที่โรคประจำท้องมาพ้องพาล มักมีผิวเนื้อขาว รูปร่างท้วม หรือกลม เจ้าอารมณ์ ยิ้มแย้มอยู่เสมอ ช่างพูด เจ้าสังคม พฤหัสกุมลัคนาในราศี ปัญญาดีปรีชากล้าโวหาร อายุยืน ผมบาง ช่างชำนาญ รอบรู้การไสยเวทย์วิเศษครัน อุดมด้วยปัญญาอุตสาหะ มีตะบะเดชะมานะมั่น จะสมบูรณ์พูนสุขทุกคืนวัน ทั้งทรัพย์นั้นมิรู้ขาด ฉลาดมี มักมีรูปงาม มีลักษณะเป็นที่น่านิยมนับถือ ผิวขาว รูปร่างท้วม หน้าผากกว้าง บางคนล้าน พูดจาหลักแหลม พอใจคน ศุกร์กุมลัคนาในสถาน ถ้อยคำโวหารประเสริฐศรี กามราคะแรงจัดข้างสตรี เมื่อเกิดที่ใกล้ฝั่งยังคงคา ดวงจิตมั่นขันติมีสัตย์นัก ใจสมัครรักธรรมนั้นหนักหนา ท่านทายไว้ว่าจะได้ภริยา ตระกูลสูงตามตำรามีมานาน มักมีรูปร่างเป็นเสน่ห์ได้ส่วนสัด ผิวขาว พูดตรง ใจตรงมีศีลธรรม พอใจนิยมนับถือของบุคคลทั้งหลาย เข้าสังคมได้ทุกชั้น เสาร์กุมลัคนาปรีชาฉลาด ใจองอาจคิดโตทั้งโวหาร รักยศอดทนซนพอการ ชอบคบพาลไม่เสียหลายใจนักเลง  จะเรืองชื่อฤานามคนคร้ามเกรง ตั้งตนเองดีกว่าพ่อไม่ง้อใคร มักมีรูปร่างสูงใหญ่ ผิวเนื้อดำแดง หน้าตาเข้มข้น พูดเสียงดัง ราหูกุมลัคนามักใจกล้า เป็นทหารออกหน้าข้าศึกได้ ชอบสุราขี้เมาไม่รู้อาย จะมีชัยแก่ศัตรูหมู่ไพรี เมื่อเล็กเยาว์วัยดุร้ายกาจ มีอำนาจดังพญาราชสีห์ แต่โรคภัยรบกวนชวนย่ำยี เมื่อเยาว์มีไข้หนักเจียนจักตาย มักจะเป็นไฝปานในที่ลับ ทั้งอาภัพทำคุณแล้วสูญหาย คงจะจริงดังว่าโหราทาย ไม่คลาดคลาดแบบฉบับตำหรับครู มักมีรูปร่างใหญ่หนาล่ำสัน มักมีเชื้อต่างชาติ ผิดไม่แน่นอน แต่โดยมากขาว บ้าๆ บอๆ พระเกตุกุมลัคนาท่านว่าไว้ มักบ้าใบ้ผิดคนพิกลอยู่ หูหนวกหัวใส ไม่น่าดูอวัยวะผิดครูท่านกล่าวมา ไม่มีสิ่งประกอบที่ชอบจิต วิปริตผิดอย่างหน้ากังขา มีดีอยู่ดอกนอกตำรา พระมหากษัตริย์ตรัสทำนาย คนหัวล้านสันดานไม่มีทุกข์ ไม่ติดคุกเหมือนดังชนทั้งหลาย ต้องเป็นจริงดังว่าตำราทาย ไม่เคลื่อนคลายแปลกพ้นทุกคนดู มักมีรูปร่างสูง ผอม หน้ายาว คางแหลม ผิวเนื้อดำแดง บางคนก็ไม่ได้บ้า หรือมีลักษณะอย่างว่า กลับเป็นคนที่มีความรู้ดี (และรู้ภาษาต่างประเทศด้วย) และสนใจในวิชาลี้ลับนัก จะตรงอยู่ข้อหนึ่งก็ตรงที่ว่าพูดไม่ค่อยเข้าหูคนอยู่สักหน่อย ออกจะพูดเร็วและมีลักษณะที่ไม่ค่อยถูกชะตาคนอยู่บ้าง แต่เรื่องพระเกตุกุมลัคน์นี้ก็ไม่ค่อยจะพบเห็นมากนัก อยู่ในประเภทหายาก มฤตยูกุมลัคน์มักจะดื้อด้าน เมื่อเล็กๆรังควานพาลคน เที่ยวเกะกะซุกซนทนพอดู ขึ้นต้นไม้เกาะไม่อยู่สะเด่าลง อายุเยาว์ย่างเข้ามัชฌิมวัย ดีเหลือใจวาสนามาเสริมส่ง มักเป็นโรคน่าวิโยคไม่ยืนยง ริมปับผาขึ้นคงไม่รู้วาย อีกโรคหนึ่งพึงอย่าไว้ใจสนิท คือโรคริดสีดวงไม่รู้หาย เป็นเวรกรรมทำมาอย่าระคาย ถ้าดูผิดเป็นไม่ทายต่อไปเลย รูปร่างผิวพรรณขึ้นอยู่กับราศี แต่เรื่องต่างๆเท่าที่เห็นมาออกจะจริงตามตำราอยู่ โดยมากเป็นผู้มีปัญญาว่องไว ฉลาดในการพูด ทำอะไร ทำเร็ว ใจเร็ว

 

 

พยากรณ์ดินฟ้าอากาศจากดาวเคราะห์

พยากรณ์ดินฟ้าอากาศจากดาวเคราะห์

ความสำคัญของดาวเคราะห์ไม่ใช่จะบ่งบอกถึงความเป็นไปแห่งวิถีชีวิตมนุษย์เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมอยู่เหนือเหตุการณ์ความเป็นไปของโลกด้วย ขณะใดที่ดาวเคราะห์ทั้งปวงดำเนินไม่ด้วยความไม่เป็นปกติภัยธรรมชาติต่างๆย่อมบังเกิดแก่มวลมนุษย์ เช่นเกิดฝนแล้ง, น้ำท่วม, เกิดโรคระบาด ตลอดจนเกิดศึกสงครามล้างผลาญชีวิตซึ่งกันและกัน นอกจากนั้น ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง ฟ้าผ่า พายุพัด รุนแรง ความปรวนแปรของอากาศ ตลอดจนน้ำขึ้นน้ำลงเหล่านี้ ย่อมอยู่ใต้อำนาจของดาวเคราะห์ทั้งนั้น สังเกตดูน้ำขึ้นและน้ำลงจะเห็นได้ว่า เมื่อวันอาทิตย์และจันทร์โคจรมาร่วมกัน คือในสิ้นเดือนหรือ วันขึ้น ๑ ค่ำ กับวันกลางเดือน คือวันที่อาทิตย์กับจันทร์โคจรมาเล็งกันทั้งสองระยะนี้เป็นเวลาน้ำเกิด คือน้ำขึ้นมากที่สุด และจะค่อยลดๆลงเป็นลำดับ จนถึงวันขึ้น ๘ ค่ำและวันแรม ๘ ค่ำ อันเป็นวันที่อาทิตย์และจันทร์โคจรไปเป็น ๔ และเป็น ๑๐ ซึ่งกันและกัน เป็นวันที่น้ำตาย คือมีน้ำน้อยที่สุด  แม้ประจำเดือนของผู้หญิงก็เหมือนกัน ถ้าเป็นไปตามปกติแล้วย่อมเป็นไปตามจันทรคติกาล คือ ๒๘ วันต่อ ครั้งเหมือนกันทุกคน ดาวเคราะห์ที่แสดงถึงเรื่องฝนนั้น พิจารณาจากดาวพุธ ศุกร์ และอาทิตย์เป็นสำคัญ ถ้าหากอาทิตย์ พุธ ศุกร์ โคจรเข้าร่วมราศีกัน ระยะนั้นเป็นระยะที่จะมีฝนชุกมาก หากไม่ร่วมราศีกันเพียงแต่โคจรเข้าไปใกล้กัน ถึงแม้จะทำให้เกิดฝน แต่ก็ไม่ถึงกับตกหนัก พุธกับศุกร์เมื่อโคจรเข้าร่วมนวางค์บาทในราศีเดียวกัน ก็ทำให้ฝนตกชุกเหมือนกัน นอกจากนั้นให้พิจารณาดูพฤหัสบดีอีกดาวเคราะห์หนึ่ง เมื่อพุธโคจรเข้าร่วมกับพฤหัสบดี หรือศุกร์โคจรเข้าร่วมกับพฤหัสบดี  คือร่วมนวางค์ในราศีเดียวกัน ก็สามารถทำให้ฝนตกได้ พุธ เมื่อโคจรร่วมราศีกับอาทิตย์ทำให้เกิดฝน ในเมื่อมีศุกร์โคจรเข้าไปร่วมด้วย หรืออยู่ข้างหลัง แต่มีองศา ๒๕ ขึ้นไป หรืออยู่ข้างหน้ามีองศา ๑๒ ลง จะทำให้ฝนตกชุกหนัก พุธ เมื่อโคจรตามหลังอาทิตย์  แต่องศา ๒๕ ขึ้นไป ก็ทำให้เกิดมีฝน และยิ่งในขณะเมื่อศุกร์โคจรเข้าใกล้กับอาทิตย์ก็จะทำให้ฝนตกชุกหนัก พุธ เมื่อโคจรอยู่หน้าอาทิตย์ แต่มีองศาเพียง ๑๒ ลงมา ก็ทำให้เกิดมีฝน แต่ถ้าหากมีศุกร์เข้าไปร่วมด้วย หรือร่วมกับอาทิตย์ก็ตามฝนก็จะบังเกิดชุกหนัก สำหรับฝนที่มีพายุและฟ้าผ่านั้น ต้องพิจารณาดูอังคารและเสาร์เป็นเครื่องประกอบ ถ้าปรากฏว่าอังคารและเสาร์โคจรเข้าไปเป็นเรือนมุม คือเป็น ๑,๔,๗,๑๐ ในขณะที่อาทิตย์และพุธโคจรเข้าร่วมกัน ไม่ใช่จะทำให้ฝนตกอย่างเดียว ยังทำให้เกิดพายุและอสุนีบาตอีกด้วย อังคารและเสาร์นี้ตามตำราท่านบังคับไว้ว่า ถ้าหากเข้าสถิตร่วมกันในราศี และในนวางค์บาทเดียวกันจะทำให้เกิดลมพัดจัด ฝนจะแล้งและเกิดไฟไหม้ เสาร์กับราหูอีกคู่หนึ่ง ถ้าหากโคจรเข้าเล็งยันเป็น ๗ ราศีแก่กัน หรือโคจรเข้าร่วมในราศีเดียวกันขณะเมื่อโคจรเข้าเล็งหรือร่วมในนวางค์เดียวกันจะทำให้ฝนแล้ง พฤหัสบดีเล็งหรือร่วมกับราหูทำให้เกิดโรคระบาด ในวันที่จะมีฝนตกนั้น จำต้องพิจารณาดูจันทร์เป็นเครื่องประกอบอีกดาวเคราะห์หนึ่ง วันใดจันทร์โคจรมาเป็น ๑,๔,๗,๑๐ กับอาทิตย์ วันนั้นฝนจะตกหนัก ถ้าไม่เป็นมุมแก่กันถึงจะตกก็ไม่มากนัก ส่วนดาวมฤตยู ดาวดวงนี้กล่าวกันว่าทำให้เกิดน้ำท่วมได้ ถ้าหากโคจรเข้าร่วมราศีกับราหู หรือร่วมราศีกับเสาร์ก็อาจทำให้เกิดน้ำท่วมได้ดุจกัน ศุกร์กับเสาร์ถ้าหากโคจรมาเล็งกัน หรือเป็น ๔ คือทำมุมกับเสาร์จะทำให้มีหมอกลงจัดมาก เหล่านี้เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ อันเนื่องมาจากดาวเคราะห์ทั้งสิ้น

 

 

เกณฑ์ไตรยางค์สมพงษ์และพระเคราะห์คู่

เกณฑ์ไตรยางค์สมพงษ์และพระเคราะห์คู่

ไตรยางค์สมพงษ์ พระโหรารู้แจ้งแห่งเคราะห์เพศ ชี้มูลเหตุสมพาศวาสนา นรชาติหญิงชายในโลกา กำเนิดมาร่วมคู่สมสู่กัน       ตำรับชี้เหตุเพศพระเคราะห์ โดยจำเพาะสามเหล่าเข้ากระสัน เกาะกุมลัคน์หรือพักรเข้าเรือจันทร์                                        ทายสัมพันธ์สืบคู่อยู่อย่างไร                         รวิ-จันทร์เรือนครูในอาโป                 มีภุมโมร่วมธาตุจะหวาดไหว                 ว่าผัวเมียสัมพันธ์ไม่ทันไร                 จะผิดใจไพล่ชู้คู่แสนกลหมายความว่า อาทิตย์ – จันทร์ อยู่ร่วมกันในราศีมีน ก็มีสภาพการณ์เป็นปกติ ไม่กระตือรือร้น (เหมือนปลาอยู่ในบ่อ) แต่เมื่อมีดาวอังคารร่วมธาตุ ก็จักทำให้ใจหวาดผวาตื่นเต้น (เปรียบเสมือนปลาออกจากบ่อไปสู่ลำคลอง) เพราะเห็นสิ่งที่แปลกประหลาด (เหยื่อหรืออาหารใหม่)  ก็จะทำให้ใจฟุ้งซ่าน เหมือนหญิงสาว-ชายหนุ่มชาวป่ามาเห็นแสงสีในเมืองหลวง ดังมีตำนานกล่าวไว้ว่า อาทิตย์,จันทร์,อังคารอยู่ร่วมธาตุเดียวกันทายคู่ชู้ คือชายจะไปเป็นชู้กับเมียของชายอื่น หรือหญิงมีผัวแล้วก็จะมีชู้ แยกเกณฑ์ทาย  จันทร์-อาทิตย์อยู่ร่วมราศีเดียวกัน ถ้าอังคารไม่ร่วมธาตุก็อย่าทายว่าเล่นชู้ หรือดาวอังคารร่วมธาตุ ก็กำหนดเอาลัคน์กำเนิด 1. กุมอังคาร แย่งรักหักโหม เอาคู่ครองของคนอื่น ไตรยางค์สมพงษ์และพระเคราะห์คู่ 2. กุมอาทิตย์ – จันทร์ คือร่วมราศีร่วมกัน ถูกแย่งรักสมัครใจ หมายถึงหญิงมีผัวแล้วก็สมัครใจมีชู้ หรือชายมีเมียแล้วก็สมัครใจไปเป็นชู้เมียผู้อื่น เมื่อถูกยั่วยวน                       อังคาร – จันทร์เมถุนกรุ่นตัณหา                สุริยาร่วมลัคน์จักกาหล                มักเป็นชู้คู่อื่นหื่นกมล                ผัวเมียตนแม้นได้ใช่คนดีหมายความว่า จันทร์-อังคาร อยู่ร่วมกันในราศีเมถุน ในตำรายืนยันว่า หญิงต้องได้ผัวที่มีเมียมาแล้ว (หรือกำลังมีเมีย) หรืออีกนัยหนึ่งทายว่า หญิงก็ดีชายก็ดีมิกามราคะแรง ต้องมีผัว-เมียไม่ต่ำกว่าสองคน เมถุนคือราศีคนคู่ ชายต้องมีเมียสองคนในขณะเดียวกัน หญิงต้องมีผัวสองคน คือเลิกกับผัวเดิมและได้ผัวใหม่ แต่ในตำรากล่าวว่าต้องมีดาวอาทิตย์อยู่ร่วมราศีด้วย แต่ถ้าไม่มีดาวอาทิตย์อยู่ร่วมกัน อย่าทายเกณฑ์นี้  ราศีเมถุน เป็นราศีลี้ลับในเรื่องเพศสัมพันธ์ หญิงก็ดีชายก็ดีมักทำความใคร่สำเร็จด้วยตัวเอง จึงมักเป็นโรคกามวิตถาร  อาทิตย์ -จันทร์-อังคาร กุมลัคน์ในราศีเมถุน ถ้าเป็นดวงชาตาเพศหญิง ผัวต้องทำให้ถึงใจพระเจ้าแม่ ถ้าเป็นดวงชาตาเพศชาย เมียต้องทำให้ถึงใจพ่อเจ้าประคุณจึงจะอยู่กันยืด หรือในระยะ 24 ชั่วโมงต้องไม่น้อย 3 ครั้ง หรือมากกว่า หายาบำรุงไว้ เพราะราศีเมถุนเป็นราศีที่แรงนัก และที่กล่าวว่า มักเป็นชู้คู่คนอื่นหื่นกมล หมายถึงว่าผัวก็ดีเมียก็ดีทำไม่ถึงใจ ต้องลักลอบมีชู้ เพราะหื่นตัณหา และที่กล่าวว่า ผัวเมียตนแม้นได้ใช่คนดี หมายถึงว่าไม่เป็นคนบริสุทธิ์มาก่อน คือชายก็ดีหญิงก็ดีช่ำชองในเรื่องนี้มาจนโชกโชน                          จันทร์-ครูอยู่ในกันย์พลันใจง่าย                 จะพลีกายก่อนวิวาห์น่าบัดสี                 มีอาทิตย์ร่วมด้วยช่วยแรงดี                 สองสามปีมีบุตรผุดประจานหมายความว่า จันทร์-ศุกร์ร่วมราศีกันย์ เท่าที่ทดสอบ ศุกร์กับจันทร์สัมพันธ์กัน ชายก็ดีหญิงก็ดี กรุ้งกริ่งชอบมีอากัปกิริยาในเชิงชู้ แต่ถ้ามีดาวอาทิตย์อยู่ร่วมด้วย มักแสดงอากัปกิริยาเป็นผู้มีสกุล ผยองเฉกสนุขทีเอาหนังราชสีห์มาสวม มีลูกไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อ                           จันทร์-ราหูอยู่ในเรือนพิจิก                 ศุกร์ประชิดจิตผันตัณหาสร้าน                 กามราคะทับถมจนซมซาน                 เหลือประมาณเมียผัวทั่วตำบลหมายความว่า   ราหู-จันทร์-ศุกร์กุมลัคน์ในราศีพิจิก ชายหรือหญิงจักลามกในกามตัณหา แม้อายุเลข 60 ก็ยังพล่านกามคุณ                          จันทร์-เสาร์เข้าครองราศีเมษ                 ลักเพศเรื่องเรื่องคู่ดูฉงน                 ถ้าดาวศุกร์เบียดใกล้ใจพิกล                 ผัวเมียตนคราวลูกปลูกฝังกันหมายความว่า  จันทร์-เสาร์-ศุกร์ กุมลัคน์ในราศีเมษ มักชอบเด็กรุ่นๆ คือชายแก่ชอบมีเมียคราวลูกหลาน (หรือข่มขืนชำเรา) หญิงชอบมีผัวคราวลูกหลาน (หรือเย้ายวน กอด ปล้ำ) ได้ผัวแก่เมียแก่ไม่สะใจ                          อังคาร-พุธอยู่ตุลย์อุดหนุนธาตุ                 เชิงสวาทจับคู่ดูน่าขัน                 จะได้คู่ไปครองต้องแย่งกัน                 ผัวเมียมันมักเถียงปากเกี่ยงงอน หมายความว่า  อังคาร-พุธ-ศุกร์ อยู่ในราศีธาตุลม (จะเป็นราศีใดก็ตาม) มันได้ผัวเมียดูจะพิกล (หญิงจะมีผัวน้อยผัวหลวง) ชายที่มีเมียก็มักจะไปแย่งของใครมา และเถียงกันไม่ค่อยเว้นแต่ละวัน                          อังคาร-ครูอยู่กุมภ์คุมราหู                 เชิงเจ้าชู้เยี่ยงยักษ์มักเผ็ดร้อน                 พอได้กันพลันเกิดอนาทร                 ต้องสัญจรจากถิ่นที่เดิมทีหมายความว่า  อังคาร-พฤหัส-ราหู อยู่ราศีกุมภ์ เจ้าชู้ยักษ์ มักเถียงและตบตีกันเสมอ คือถ้าไม่ตบตีกันก็ไม่ชื่นใจ วันไหนตบตีกันละก็คืนนั้นฉ่ำชื่น คือผัวหนีไปเมียตามง้อ เมียหนีไปผัวตามง้อ ดวงแบบนี้ลูกดก                          อังคาร-เสาร์เนาว์สิงห์ถูกจันทร์เล็ง                หญิงก็เก่งชายก็กล้าพากันหนี                ถ้าพระศุกร์เป็นเก้าเค้ามูลดี                จะมั่งมีเงินทองมิต้องภัยหมายความว่า   อังคาร-เสาร์ร่วมกันในราศีสิงห์ มีจันทร์เล็งก็ดีร่วมกันก็ดี จะพาหนีกันไปอยู่ร่วมกัน นัยหนึ่งว่าหญิงจะหนีขันหมาก หรือหนีพ่อแม่ไปอยู่กับชาย หญิงที่มีผัวแล้วก็จะหนีผัวไปอยู่กับชายอื่น หมายถึงว่าคิดจะเลิกกับผัวเพราะระอาใจ สรุปความว่าต้องมีผัวคนที่สองอีก ถ้าดาวศุกร์เป็น 9 แก่ลัคน์หรือจันทร์ก็ไปดี เกิดร่ำรวยขึ้นเกณฑ์คู่ครองคนแรกต้องเลิกกัน                         พุธ-จันทร์กุมลัคน์เรือนกีฏะ                มีโสระแลดูหรืออยู่ใกล้                แม้นได้คู่ครองจักโศกใจ                เพราะต่างไม่ออมชอบถนอมกันหมายความว่า  พุธ-จันทร์อยู่ร่วมกันในราศีพิจิก มีดาวเสาร์เล็งชายได้เมียก็มีทุกข์ หญิงได้ผัวก็ไม่มีความสุข เพราะจะมีเรื่องขัดใจกัน ไม่ออมชอม คือมีความคิดไม่ลงกัน และจะมีการถกเถียงกันอยู่เสมอ ในเกณฑ์นี้ไม่ได้บ่งจะเลิกหรืออาจจะอยู่ร่วมกันอย่างขมขื่น ให้พิจารณาดูลัคน์กำเนิด                        พุธ-ศุกร์เรือนไฟไวชะมัด               กามกำหนดกัดกร่อนนอนนึกฝัน               ดาวธาตุลมเล็งลัคน์มักผิวคัน               ต้องอย่างนั้น วัน-คืน ตื่นไม่เพลาหมายความว่า  ดาวพุธ-ศุกร์อยู่ในราศีธาตุไฟ คือเมษ สิงห์ ธนู และเมื่อดาวธาตุลม (อังคารหรือราหู) เล็งลัคน์ มีกามราคะแรง หรืออีกนัยหนึ่งพุธ-ศุกร์กุมลัคน์มีดาวราหูเล็งก็อย่างเดียวกัน                          พุธ-ครูอยู่มังกรเสือซ่อนเล็บ                 เชิงพูดเหน็บยวนยีมีกระเซ้า                 ผิว์ราหูเป็นสีที่ไม่เบา                 ทำเป็นเต่าใครเผลอเจอเม็ดดีหมายความว่า พุธ-พฤหัสอยู่ราศีมังกร มีราหูเป็นสี่ มักแกล้งทำขรึมแต่ตาชำเลือง ไม่ใช่ย่อย                            พุธ-ราหูอยู่พฤษภเหมือนกบคราง                  หรือเยี่ยงอย่างสุกรนอนจมขี้                  ผิว์เล็งครูหมูจะกละดังหะยี                  หญิงก็มีชายก็มากราคมิซาหมายความว่า  พุธ-ราหูอยู่ในราศีพฤษภมีดาวพฤหัสเล็ง บ้ากาม แม้หญิงชายอายุ 60 ก็ยังหื่นตัณหา เกณฑ์ลัคน์กุมพุธ-ราหู พฤหัส หรือลัคน์กุมพฤหัส พุธ-ราหูเล็ง แรงราคนัก                          พุธ-เสาร์เรือนธนูคู่สวาท                 คู่อาฆาตหวงหึงขึ้งโทษา                 ศุกร์ตามหลงหรือเดินหนลัคนา                 ต้องฟ้องหย่าเลิกร้างห่างกันไปหมายความว่า  พุธ-เสาร์อยู่ร่วมกันในราศีธนู มีดาวศุกร์อยู่หน้าก็ดีอยู่หลังก็ดี จะอยู่ด้วยกันไม่ยืด อาจจะเป็นเพราะว่าผัวไปมีเมียใหม่ หรือเมียไม่สะใจก็ได้                           ครู-เสาร์เนาว์อยู่เรือนธาตุลม                  ถูกพุธข่มอมทุกข์ไม่สุกใส                 ไม่ผัวเมีย เสียชีพ ลงบรรลัย                 หรือโทษใหญ่ได้ทุกข์คุกตะรางหมายความว่า  พฤหัส-เสาร์อยู่ในเรือนธาตุลม คือราศีเมถุน ตุลย์ กุมภ์ และมีดาวพุธข่มอยู่ ข่มอยู่อาจจะอยู่ร่วมกันหรือเล็งก็ได้ จะเกิดโทษจากคู่ครอง คือเมื่อได้อยู่ร่วมกันแล้วจะเกิดทุกข์หรือตาย ถ้าไม่ตายก็ต้องติดคุก เพราะดาว ๓ เป็นดาวบอกเหตุลางร้าย คือเสาร์-พฤหัส เสาร์-พุธ หรือ เสาร์-พุธ-พฤหัส และถ้าอยู่ในราศีธาตุลมแน่นอน                           พฤหัส-ราหูดูประหลาด                  มักเอาทาสสมสู่เป็นคู่สร้าง                  หากจันทร์เด่นสุคนธ์เกิดผลทาง                  เป็นคู่สร้างบารมีศรีตระกูลหมายความว่า  พฤหัส-ราหูอยู่ร่วมกันราศีเดียวกัน แต่ไม่บ่งว่าราศีไหน บ่งแต่ว่าจันทร์เด่นจึงจะดี เช่นหญิงเอาบ่าวเป็นผัว ชายเอาคนใช้เป็นเมีย ทาสหมายถึงคนที่รับใช้ สรุปแล้วพฤหัส-ราหูกุมลัคน์ ได้ธาตุเป็นคู่ครอง  เกณฑ์ไตรยางค์สมพงษ์นี้ เป็นแนวทางการทายเกี่ยวกับเรื่องคู่ครองว่าจะเป็นอย่างไร เพราะจุดนี้เราจะไม่เว้นถูกถามว่า ดิฉันจะได้สามีเป็นอย่างไร ผมจะได้เมียเป็นอย่างไร บางคนก็อาจจะดูที่ภพ ปัตตนิอย่างเดียว คำกลอนเกี่ยวกับเกณฑ์ไตรยางสมพงษ์และพระเคราะห์คู่ โดยอาจารย์ เชย บัวก้านทอง

 

 

ดวงยอดโปรกอล์ฟชาวไทย -ธงชัย ใจดี-กำลังก้าวสู่อันดับโลก

ดวงยอดโปรกอล์ฟชาวไทย -ธงชัย ใจดี-กำลังก้าวสู่อันดับโลก
ผลการแข่งขันกอล์ฟดูไบ ลีเวสท์วู้ด โปรกอล์ฟอันดับ 1 ของโลก ทำได้ที่ 3  ส่วน ธงชัย ใจดี ทำได้ที่ 8  ทั้งๆที่ก่อนวันสุดท้ายของการแข่งขัน ตีดีมากๆ สูสีกับลีเวสท์วู้ด แต่ก็ กวาดเงินรางวัลได้ประมาณ 6 ล้านบาท
เป็นโปรที่มีความมานะพยายามสูงมาก  ไต่เต้ามาจากเด็กเก็บลูกกอล์ฟในสนาม  จนปัจจุบันสามารถกวาดเงินรางวัลจากการแข่งขันกอล์ฟไปได้ หลายสิบล้านบาท มีสนามกอล์ฟส่วนตัว  และ อุทิศตนสอนเทคนิคการเล่นกอล์ฟให้กับเยาวชนไทย
ชาวลพบุรี เกิดวันที่ 8 พฤศจิกายน 2512  มีชื่อเล่นว่า โปรช้าง ลูกชาย 2 คน ภรรยาคนเดียว แล้ว เกรงใจภรรยาเป็นที่สุด
แต่งงานวันที่ 25 กรกฎาคม 2542
ได้รับปริญญา ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์  (ด็อคเตอร์) สาขาบริหารจัดการกอล์ฟ จาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง
เริ่มเล่นกอล์ฟตั้งแต่อายุ 16 ปี  ได้แชมป์ครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2543 ในรายการ โคลอน โคเรียนโอเพ่น ที่ประเทศ เกาหลีใต้

   

   

จากเว็บ mcot.net

กอล์ฟ ยูโรเปียน ทัวร์ รายการสุดท้ายของปี “ดูไบ เวิลด์ แชมเปียนชิพ” ชิงเงินรางวัลรวมประมาณ 225 ล้านบาท ที่นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จบวันสุดท้าย โรเบิร์ต คาร์ลส์สัน จากสวีเดน และ เอียน โพลเตอร์ จากอังกฤษ มี 14 อันเดอร์พาร์เท่ากัน ต้องตัดสินหาแชมป์ด้วยการดวลเพลย์ออฟ ก่อนที่ คาร์ลส์สัน จะมาชนะในการเพลย์ออฟหลุมที่ 2 ด้วยการทำเบอร์ดี้ พร้อมรับเงินในฐานะแชมป์ไปประมาณ 36 ล้านบาท

ส่วน “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี ที่ครองอันดับ 2 ร่วม ก่อนลงเล่นวันสุดท้าย ตีเกินไป 1 โอเวอร์พาร์ คะแนนรวม 9 อันเดอร์พาร์ 279 ได้อันดับที่ 8 รับเงินไปเกือบ 6 ล้านบาท

ธงชัย เริ่มต้นชีวิตทำงานรับราชการทหารเมื่ออายุ 19 ปี โดย พล.ท.วิมล วงศ์วานิช ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการศูนย์สงครามพิเศษลพบุรีในขณะนั้น เห็นความสามารถด้านกีฬาของธงชัย จึงให้เขาเข้ารับราชการในปี 2531

เขารับหน้าที่เสมียนงานเอกสาร และเป็นนักกีฬาของกองทัพบกจนกระทั่งได้ยศสิบเอกในปีที่ 11 ของการทำงาน แต่เขาได้สร้างชื่อเสียงให้กับทางหน่วยต้นสังกัด และกองทัพบกเรื่อยมา จนกระทั่งได้รับพระราชทานถ้วยจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากการแข่งขันกีฬาภายในกองทัพบก ครั้งที่ 41 และได้รับเลือกเป็นนักกีฬาทีมชาติไทยในปี 2538

หลังจากนั้นปี 2539 เลื่อนเป็นมือหนึ่งของนักกอล์ฟทีมชาติไทยชุดไรซิ่งสตาร์ และปี 2541 เล่นรายการสุดท้ายที่เล่นให้กับทีมชาติในกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดย ธงชัย ได้รับรางวัลอันดับ 6 ในฐานะนักกอล์ฟสมัครเล่นจากการแข่งขัน ตรงนี้ได้สร้างประสบการณ์ใหม่ และความท้าทายให้กับเขา

ก่อนที่ธงชัยจะตัดสินใจลาออกจากการรับราชการทหาร เพื่อมายึดเส้นทางนักกอล์ฟอาชีพ เนื่องจากการเป็นนักกอล์ฟต้องทุ่มเททั้งกายและเวลาในการฝึกซ้อม จนสามารถสอบเทิร์นโปรขึ้นมาเป็นนักกอล์ฟ และยึดเส้นทางมืออาชีพในวัยประมาณ 30 ปี

 ที่มา  http://www.chatacheevit.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=539251062

ดวงนาธาน โอมาน

ดวงนาธาน โอมาน  ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๑๙
เวลา ๑๖.๔๘ น.

ดวงนาธาน โอมาน ถือเป็นจอมอัจฉริยะ โกหกหน้าตาย ปั้นน้ำเป็นตัวหลอกคนทั้งประเทศได้หน้าตาเฉย ไร้ความรู้สึก ย้อนไปครั้งที่นาธานไปโกหกรายการสุริวิภา ได้ออกอากาศ 2 ตอน ฟันค่าตัวไปรับรองเป็นแสนๆบาท ว่าได้เล่นหนังฮอลีวู้ด เรื่องเจ้าชายเกือกแดง เมคเรื่องสะบั้น ไปขี่อูฐ อวดว่ากระทบไหล่บรู๊ซ วิลลิสบ้าง...ถึงไม่เป็นโรคจิตคนที่ดูโทรทัศน์หลายคนน่าจะคิดว่าเป็น เพราะ ออกโทรทัศน์โกหกหน้าตาย 3-4 รายการ ใครจะกล้าแบบเขา ยกนิ้วให้เลยค่ะ.......

นาธาน ทำ เฮียฮ้อ เดือดร้อนได้เหมือนกัน เรื่องรางวัลเยาวชนดีเด่น เกือบซวย

สุดท้าย วู้ดดี้เกิดมาคุย ไปสัมภาษณ์อีกแล้ว บอกว่า "ต่อไปผมจะเป็นคนดี ไม่กอหกอีกแหล่ว" ???
โธ่ ดวงบอกชัดๆ ว่า นิสัยไม่มีทางเปลี่ยน *** อายุย่าง เพียง 35 เท่านั้น
เวลาเกิด 16.48น ได้มาโดยการสืบค้น และเชื่อว่าจริง วันเกิด 14 พฤษภาคม 2519

ลัคนามี 8+0 ดาว 2 ดวงนี้ดุและแรง "สุดยอด" คราวนี้ต้องดูว่า อะไรมาเล็ง
ดาว 4+5+6 เล็ง ดาว 4=ศุภะ+วินาศน์ ดาว 5=อริ และ ดาว 6 คือ ตนุ+มรณะ

เอาละ กลุ่มดาวฝั่งเล็งลัคนา ยกโขยงมาดีๆ ทั้งนั้น วินาศน์+มรณะ+อริ
ดาวที่กุมลัคน์ ก็ร้าย เพราะ 0 มฤตยู 8 ราหู ก็ดาวร้าย กุมกันบอกว่า เรื่องไม่น่าเชื่อว่าเป็นไปได้ อุปมาอุปมัยว่า ถ้าคว้าขนมกินคาอยู่ในปาก เพื่อนถามว่า กำลังกินอะไร ต้องตอบว่า "เปล่า ไม่ได้กินอะไร"

ดาว 6 คือ ตัวเอง-ตนุ กระโดดไปอยู่ราศีเมษ เป็นประ เล็งตัวเอง ก็ ตัวเองทำตัวเอง ไม่มีคนอื่นทำเลย ความรัก 3 ฉาก 8 กุม 0 ทั้ง 7 กุมตายสนิท

ดูดาว 5 สหัชชะ คนในวงการ คนรู้จักกัน เข้ามาให้ 0 เล็ง ดาว 8 เล็ง 4 ตรงนี้สำคัญมาก เพราะ วิชาหมอดู แปลว่า เหลี่ยม กอ6 ตอตอ.. ดาว 6 กุม ไปร่วมเรือนเกษตรกับ 2 กัมมะ ถ้าตัวเอง 6 ถึงกัมมะ = ทำเอง นิสัย (ถาวร) ดาว 8 กุม 0 ร่วมเรือนเกษตรกับ 1 ลาภะ ถูก 2 เล็ง จึงสนุก

นับถือ เพราะ เป็น ดวงครูขั้นปรมาจารย์ หายาก ถ้าเรียนโหราศาสตร์ ควรรีบจดลงสมุด ที่พูดนี่เชิงโหราศาสตร์ ไม่มีโกรธมีเกลียดเป็นการส่วนตัวเลย เพราะเจ้าตัวก็รู้ว่า ดังทั่วประเทศคับฟ้าเมืองไทย

ดาว 5-8 ตำราว่าเป็น คู่พระ-คู่โจร คือ โจรทำตัวเป็นพระ หรือ แฝงในร่างพระ
เห็นผิดเป็นชอบ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เรื่องที่เสัยหายกลับคิดว่าเป็นเรื่องดี เรื่องสนุก แต่จะแปลเป็นแนวนี้ได้เมื่อ ตนุลัคน์ไปสัมพันธ์กับอริ

ดาว 6 ตนุลัคน์ไปกอดกับ 5 อริ ร่วม 4 วินาศน์ เล็งมาถล่มลัคนาที่ราศีตุลย์
8-4 แปลแบบสุภาพ ก็......วาจาเชื่อถือไม่ได้
แต่นี่มี 0 กุมด้วย ต้องโด่งดังกว้างขวาง เรื่องที่กลับหลังหันตรงกันข้าม และเป็นเรื่องใหญ่
ดาว 0+8 เลยถล่มกลับไปที่ 6 ตนุ กระจุยกระจาย ด้วยความเป็น อริ วินาศน์ และมรณะ

ลองดูดวงคนมีสตางค์ แต่ชอบไปขโมยของตามห้าง อ้างว่า มันตื่นเต้น ชีวิตมีรสมีชาติ สนุกเร้าใจ ก็คล้ายๆกัน อีหรอบเดียวกัน

ที่มา   http://www.payakorn.com/

มรณะกรรมโดยอุบัทวเหตุ

หญิงเป็นลมตายขณะแสดงลิเก
๑๕ พ.ย. ๒๔๗๕
๑๑.๔๕ น. ( ซ้าย)

วันที่เสียชีวิต
๑๐ พ.ย. ๒๕๐๕ (ขวา)

ผู้ที่ถึงแก่กรรมโดยอุบัทวเหตุส่วนมากมีบาปเคราะห์ถึงลัคนามาก  เช่นในมุมโยคหรือจตุโกณทุกจุด หรือตรีโกณหรือเล็ง  และในภพมรณะมักมีบาปเคราะห์
ชุมนุมอยู่หรือดาวมรณะมากุมลัคน์หรือลอยอยู่ภพที่ ๑๐

ดาวพระเคราะห์ในชะตามักมีดาวคู่ต่อไปนี้คือ ๗ กับ๐,
๗ กับ ๓ , ๗ กับ เนปจูน, เนปจูนกับอังคาร, ๑กับ ๓,
๓ กับ ๘, ๘ กับ ๐, ๘ กับ เนปจูน, ๐ กับ ๓,๐ กับเนปจูน,
ดาวเหล่านี้กุมกันหรือเล็ง  หรือสัมพันธ์ถึงกันอย่าง
เห็นชัดหรือสัมพันธ์ถึงลัคนาทั้งพื้นดวงและดาวจร
และในภพที่ ๑๐ มักมีดาวให้
โทษสถิตอยู่

ดังตัวอย่างดวงนี้
๑.เสาร์กุมลัคน์ราหูนำหน้า มฤตยูโยคหน้า มีดาว๑ มรณะ
เป็นนิจอยู่ภพที่ ๑๐ ผู้ที่มีดาวมรณะอยู่ภพที่ ๑๐
ให้ระวังจะตายด้วยอุปัทวเหตุ  มีบาปเคราะห์ ๓ร่วมกับ ๕
วินาศ ในภพมรณะ ๘ เล็ง
๒.วันมรณะ ดาว ๗ ทับ ลัคน์ มีบาปเคราะห์๘ ร่วมกับ ๓
มรณะเล็ง
๓. ดาว ๑ เจ้าเรือนมรณะโคจรเข้าภพที่ ๑๐ทับตัวเอง
ทำให้มีลางมรณะเกิดขึ้นในภพกัมมะ คือ ตายในระหว่าง
ทำงาน
๔.เมื่อมรณะนั้น ดาว ๖ นิจอันเป็นดาวให้โทษเสวยอายุ
ดาวพุธแทรก  พุธเป็นเจ้าเรือน ศุกร์นิจ ซึ่งอยู่ในเรือนอังคาร  อังคารเจ้าเรือนมรณะจึงให้โทษยิ่งนัก

วิเคราะห์ดวงชะตา ศรราม เทพพิทักษ์ (๒)

ศรราม เทพพิทักษ์ (๒)

***************

 การพิจารณาเรื่องของการเงิน รายได้ ต้องพิจารณาภพที่ ๒ กฏุมพะเป็นหลัก แม้กระทั่งการสูญเสียเงินทองเป็นจำนวนมาก ก็ต้องพิจารณาที่ภพนี้ โดยพิจารณาทั้งดาวเจ้าเรือน และดาวลอยในภพ ทั้งในพื้นดวงกำเนิด และดวงดาวจร หรือ วันที่เกิดเหตุการณ์ได้เงิน หรือ เสียเงิน อย่างในกรณีที่พระเอกหนุ่มผู้นี้ ขับรถชนคนตายเพราะหลับใน จะด้วยความประมาท หรือไม่ประมาทก็ตาม กฎหมายไทยเอาผิดผู้ขับขี่รถยนต์ หนักหนาสาหัสถึงกับติดคุกตะรางเลยทีเดียว ดังนั้น จึงมีคติเตือนใจสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ในเมืองไทยทุกคนเสมอว่า “คนขับรถทุกคนนั้น ขาข้างหนึ่งอยู่ในตารางแล้ว”

ดังนั้น หลังจากเกิดเหตุการณ์ เชื่อเถอะครับว่า ดาราหนุ่มและครอบครัว จะต้องใช้ “ดวง” คือ ด. เด็ก ได้แก่ “ดิ้นรน” ว.แหวน ได้แก่ “วิ่งเต้น” และ ง.งู ได้แก่ “เงิน” ทุกวิถีทาง เพื่อให้พ้นคุกตะราง ซึ่งแน่นอนครับ ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ๆ เพราะต้องดิ้นรน และ วิ่งเต้น ไปยังผู้ที่มีส่วนในการทำคดี และพิจารณาคดีทุกฝ่าย รวมไปถึงญาติผู้ตาย ดีไม่ดีนักข่าว ที่ทำข่าว ก็พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย อย่าบอกนะครับว่า เมืองไทยไม่มีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น เขามีมาทุกยุคสมัย และมีมาตั้งนานแล้วล่ะลุง ยิ่งคดีขับรถยนต์ชนคนตายด้วยแล้ว ไม่ใช่เรื่องยาก ขนาดนายพล และ ลูกนักการเมืองชื่อดัง ยิงคนตาย ยังหลุดพ้นคดีมาได้ ดังนั้น คดีของพระเอกหนุ่ม ถือว่า “จิ๊บจ๊อย” มาก

ในอเมริกาที่ผมอาศัยอยู่มานานกว่า ๑๗ ปี ผมยังไม่เคยได้ยินนะครับว่า ขับรถยนต์ชนคนตาย จะด้วยประมาท หรือ ไม่ประมาท แล้วต้องติดคุกตะราง นอกเสียจาก “ชนแล้วหนี” เท่านั้น ยิ่งในกรณีที่เป็นเหตุสุดวิสัย อันเกิดจากฝ่ายที่ถูกชน เช่น วิ่งตัดหน้า ไม่ข้ามในทางข้าม ในขณะที่จราจรคับคั่ง หรือ ข้ามในทางที่มืด ไม่มีไฟฟ้าข้างทาง แถมตัวยังดำ ใส่เสื้อผ้า กางเกงสีดำ ฯลฯ อย่างนี้ อยู่ในภาวะน่าเห็นใจครับ บริษัทประกันเขาสู้คดีให้ ไม่มีติดคุกตะรางแน่ ผมเองก็มีอาชีพขับรถส่งเอกสาร ทำงานทั้งกลางวัน และกลางคืนมานานกว่า ๑๖ ปี จะเรียกว่าเป็นอาชีพหลักก็ย่อมได้ ก็รู้สึกเสียวอยู่เหมือนกัน ถ้าเกิดขับรถชนคนตาย แล้วต้องติดคุกตะรางสถานเดียว ผมคงเลิกอาชีพนี้ไปนานแล้ว

ในดวงหนุ่ม ศรราม นั้น ดาวเสาร์ (๗) เจ้าเรือนการเงิน ที่อยู่ในภพปัตนิ ถูกคราสร้ายน้องราหู คือ เกตุ (๙) เกษตร เกาะกุม มีราหู (๘) คราสร้าย ผู้พี่ เล็ง มีพลูโต (พ) และ มฤตยู (๐) กากบาท และ เนปจูน (น) ทำมุมปลายหอกทิ่มแทง จะเห็นว่า ดาวเจ้าเรือนการเงินนั้น ถูกบาปเคราะห์เบียนในมุมที่ให้โทษ อย่างยับเยิน ถ้าเห็นเช่นนี้ในดวงใคร ทำนายได้เลยว่า จะต้องมีเรื่องเดือดร้อนการเงิน หรือ เสียเงินจำนวนมาก ๆ อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต ทีนี้จะเสียเงินในเรื่องใด ก็ต้องพิจารณาดาวอื่น ๆ ประกอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน จะไม่ขอกล่าวในที่นี้

ในดวงที่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ หรือ การเดินทางนั้น จะต้องพิจารณาดาวเจ้าเรือนภพที่ ๔ พันธุ และ ดาวลอยในภพพันธุ เป็นสำคัญ และยังต้องพิจารณาดาวจันทร์ (๒) พันธุโลกธรรมด้วย ว่าถูกบาปเคราะห์เบียนให้โทษมากน้อยเพียงใด อีกทั้งยังต้องพิจารณาดาวพุธ (๔) ที่หมายถึง การติดต่อสื่อสาร การเดินทางในขณะนั้นด้วยว่า ถูกบาปเคราะห์เบียนให้โทษหรือไม่ ถ้าถูกเบียน แสดงว่า ในช่วงดังกล่าว ต้องระวังในเรื่องของการติดต่อสื่อสาร การเดินทาง การทำสัญญา การพูด การเจรจา ฯลฯ มักจะสร้างปัญหา เดือดร้อน หรือ ผิดหวังได้

มาพิจารณาเรื่องของพันธุ ในดวงหนุ่ม ศรรามกัน จะเห็นได้ว่า ดาวเนปจูน (น) เจ้าเรือนพันธุ นั้น อยู่ในภพวินาศนะ อันเป็นภพร้าย (ทุสถานะ) ให้โทษ และยังถูก อังคาร (๓) เสาร์ (๗) เกตุ (๙) ทำมุมปลายหอกทิ่มแทงทั้งสองจุด มีราหู (๘) คราสร้าย นำหน้า อย่างนี้ถือว่า ถูกบาปเคราะห์เบียนมาก จะต้องระวังภัยในเรื่องราวเกี่ยวกับ บ้าน รถยนต์ ยานพาหนะ ฯลฯ ที่อาจก่อให้เกิดความหายนะ หรือ เดือดร้อนได้ อย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต

ทีนี้มาดูดาวจันทร์ (๒) พันธุโลกธรรม จะเห็นว่า จันทร์ (๒) นั้นอยู่ในภพอริ อันเป็นภพร้าย (ทุสถานะ) เช่นกัน และยังถูกบาปเคราะห์ เบียนอย่างมาก ไม่น้อยไปกว่าเนปจูน (น) เจ้าเรือนพันธุ กล่าวคือ โดนเนปจูน (น) เล็ง เสาร์ (๗) เกตุ (๙) บีบหน้า อังคาร (๓) บีบหลัง ราหู (๘) ทำมุมปลายหอก และที่สำคัญก็คือ จันทร์ (๒) เป็นดาวเจ้าเรือนมรณะ ในภพอริ เมื่อเล็งเนปจูน (น) เจ้าเรือนพันธุ จึงก่อเหตุร้ายในเรื่องของปัญหาอุปสรรค ศัตรู แก่ภพพันธุ ในที่นี้ หมายถึง รถยนต์ คือ ขับรถยนต์ไปชนคนตาย แต่ที่รอดคุกตะรางมาได้ ก็ด้วยเหตุที่ จันทร์ (๒) เป็นดาวมรณะ ในภพอริ ถือว่า หากมีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น ก็จะระงับดับลงได้ เป็นดวงชะตา ที่ชนะปัญหาอุปสรรค ศัตรู หรือ เรื่องร้าย ไม่อาจทำอันตรายได้ นอกเหนือไปจากกรรมปัจจุบัน คือ ด.ว.ง. ตามที่กล่าวมาแล้ว

 ดาวเจ้าการ ที่ทำให้ดวงชะตาใครต่อใคร ต้องประสบอุบัติเหตุร้ายแรง ก็คือ ดาวอังคาร (๓) หรือ ดาวฆาต เจ้าแห่งอุบัติเหตุ และ การผ่าตัด การสูญเสีย พลัดพราก ฯลฯ หากดาวดวงนี้ สัมพันธ์กับลัคนา หรือ เด่นในดวงชะตา จะให้โทษอย่างมาก และต้องไม่ลืม ที่จะพิจารณาดาวเจ้าเรือนมรณะ ของพื้นดวงด้วย ในดวงศรรามก็คือ ดาวจันทร์ (๒) ที่เล็งดาวเนปจูน (น) เจ้าเรือนพันธุ นั่นเองในดวงของหนุ่ม ศรราม อังคาร (๓) ดาวฆาต เจ้าอุบัติเหตุ การผ่าตัด ฯลฯ ทำมุมตรีโกณกับลัคนา และยังทำมุมกากบาท ให้โทษ กับดาวพฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนลัคน์ ที่อยู่ในเรือนการเงินอีกด้วย และถ้าพิจารณา ดาวจันทร์ (๒) เจ้าเรือนมรณะโดยตรง ก็จะเห็นว่า ทำมุมตรีโกณ หรือ ร่วมธาตุ กับดาวพฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนลัคน์ด้วยเช่นกัน ลักษณะดวงชะตาเช่นนี้ เจ้าชะตาจะต้องระวังอุบัติเหตุทุกชนิด และ การผ่าตัดส่วนหนึ่งส่วนใดของร่างกาย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ ส่วนจะเป็นเมื่อไร ก็คงต้องพิจารณาในจุดอื่น ๆ เช่น ดาวเสวยอายุ เสวยแทรก ลัคนาจรตามภพ ดาวที่มาจรกระทบกับพื้นดวง ฯลฯ ประกอบ

อย่างในดวงของศรราม ที่เกิดอุบัติเหตุขับรถชนคนตาย ในปีที่เขามีอายุได้ ๓๓ ปี เราจะเห็นว่า ดาวที่เสวยอายุนั้น คือ ดาวจันทร์ (๒) เจ้าเรือนมรณะ ที่อยู่ในภพอริ ซึ่งครองวัยระหว่าง ๓๑ ถึง ๔๐ ปี ส่วนดาวที่เสวยแทรกนั้น คือ ดาวพฤหัสบดี (๕) ดาวเจ้าเรือนลัคน์ ที่อยู่ในเรือนการเงิน ซึ่งหมายถึง ตัวตนของเจ้าชะตา ดังนั้น ในปีนี้ เจ้าชะตาจะมีเคราะห์ มีเรื่องเดือดร้อน ถึงเป็นถึงตายได้ ข้อสำคัญ พฤหัสบดี (๕) นั้น เป็นดาวศุภะโลกธรรม อันหมายถึง ศีลธรรม จรรยา คุณงามความดี เกียรติยศชื่อเสียง ฯลฯ เจ้าชะตา หรือ หนุ่ม ศรราม อาจจะมีเรื่องเสื่อมเสียชื่อเสียง (แต่แรกมีข่าวออกมาว่า ขับรถชนคนตายแล้วหนี) หรือ มีคดีความ ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ติดคุกติดตะราง หรือ เสียเงินทองมากมายเพื่อสู้คดี ซึ่งผลที่สุดของคดี ศาลตัดสินให้จำคุก ๑ ปี ๖ เดือน ปรับ ๑๐,๐๐๐ บาท และให้ความปราณี รอลงอาญาไว้ ๒ ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมความประพฤติ ๔ ครั้ง ใน ๑ ปี ทำงานบำเพ็ญประโยชน์ต่อสาธารณชน ๔๘ ชั่วโมง พ้นคุกตะรางไปได้สร้างความดีใจให้กับทุกคนที่รักหนุ่ม แม้กระทั่งผมก็พลอยดีใจไปกับเขาด้วยเช่นกัน

                ในปีที่หนุ่มอายุ ๓๓ นั้น เมื่อวางลัคนาจรในพื้นดวงกำเนิดที่ราศีสิงห์ ภพศุภะ จะเห็นว่าลัคนาจรนั้นมีอาทิตย์ (๑) ศุภะเกษตร และ พุธ (๔) เจ้าเรือนการงานของพื้นดวงกำเนิดกุม และเป็นดาวเจ้าเรือนลัคน์จร ดาวการเงินจร ในปีนั้น จึงน่าจะเป็นเรื่องดี ส่งผลดีในเรื่องของเกียรติยศชื่อเสียง เงินทองไหลมาเทมา ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง เพราะหนุ่มมีงาน มีเงินเข้ามามาก จนทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ จนเกิดผลเสียแก่ร่างกาย ถึงกับหลับใน ขับรถชนคนตาย และถือว่า โชคยังดี พระ และคุณงามความดีคุ้มครอง ไม่ขับรถไปชนกับรถคันอื่น แล้วตัวเองต้องบาดเจ็บ ล้มตายไปด้วยเหตุที่ทำให้หนุ่มประสบอุบัติเหตุรถยนต์ในปีที่อายุ ๓๓ นั้น ก็ด้วยเหตุที่ ดาวเนปจูน (น) ที่แต่เดิมเป็นดาวเจ้าเรือนพันธุของพื้นดวงกำเนิด กลายมาเป็นดาวเจ้าเรือนมรณะของลัคนาจร ในภพพันธุ และ อังคาร (๓) เจ้าเรือนวินาศนะเดิม ก็กลายมาเป็น ดาวเจ้าเรือนพันธุ ในภพศุภะ ตรีโกณถึงลัคนาจร และยังถูกบาปเคราะห์เบียนอย่างยับเยิน คือ มีพลูโต (พ) มฤตยู (๐) และ เนปจูน (น) ทำมุมปลายหอกทิ่มแทงทั้งสองจุด มีจันทร์ (๒) วินาศนะ นำหน้า มีราหู (๘) คราสร้าย ตรีโกณ ซึ่ง วินาศนะ หรือ คราสร้ายนั้น ก็คือ อาการมืดมัวชั่วขณะ หรือ การหลับไหล หลับใน ชั่วครู่ แบบไม่คาดคิด คาดฝัน แหละครับข้อพึงสังวรณ์ และควรจดจำ ในเรื่องของลัคนาจรก็คือ หากในปีนั้น มีดาวบาปเคราะห์ร้าย ๆ มาทำมุมให้โทษกับลัคนาจร ถือว่า เป็นปีที่เจ้าชะตามีเคราะห์ โดยเฉพาะอังคาร (๓) ดาวฆาต ดาวมรณะ เจ้าอุบัติเหตุ และ การผ่าตัด หากมาทำมุมสัมพันธ์กับลัคนา หรือ ให้โทษกับลัคนา และ ดาวเจ้าเรือนลัคน์ล่ะก็ ปีนั้นต้องระวังให้จงหนัก เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง และการผ่าตัด ทำให้สูญเสียเลือดเนื้อชีวิต และสิ่งอื่น ๆ ได้โดยง่าย

ในดวงของหนุ่ม ศรราม ในปีที่อายุ ๓๓ นั้น ลัคนาจรอยู่ที่ราศีสิงห์ จะเห็นว่า มีบาปเคราะห์พลูโต (พ) มฤตยู (๐) นำหน้า มีเนปจูน (น) เจ้าเรือนมรณะ กากบาท ถือว่า ให้โทษแก่เจ้าชะตา และยังมีอังคาร (๓) ดาวฆาต ราหู (๘) คราสร้าย ตรีโกณทั้งสองมุม แม้มุมตรีโกณจะเป็นมุมที่ให้คุณ แต่ด้วยเหตุที่เป็นบาปเคราะห์ ก็ย่อมให้โทษ แต่เบาบางกว่า จะเห็นว่า งานนี้เจ้าชะตาเจ็บตัวไม่มากนัก แต่เสียรถ เสียเงิน และ เสียความรู้สึกที่เกาะลึกในจิตใจนั้น มากกว่ากันหลายเท่าตัว ถือว่า ฟาดเคราะห์ไปก็แล้วกัน

 มาพิจารณาดาวจรทางขวามือ ที่กระทบดาวในพื้นดวง จะเห็นว่า วันที่เกิดเหตุ อังคาร (๓) ดาวฆาต เจ้าอุบัติเหตุ  จรทำมุมตรีโกณกับลัคนาที่ราศีธนู และจรทับตัวเอง โดยมีดาวจันทร์ (๒) เจ้าเรือนมรณะ จรตรีโกณเข้าภพศุภะอีกมุมหนึ่ง ในขณะที่พลูโต (พ) จรทับลัคนา มีเกตุ (๙) คราสร้าย จรกากบาททำมุมให้โทษกับลัคนา ในภพพันธุ บาปเคราะห์ และ ดาวร้ายเหล่านี้แหละครับ ที่ทำให้หนุ่ม ศรราม หลับใน จนประสบอุบัติเหตุและต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง มีคดีความ ถูกศาลสั่งลงโทษจำคุก แต่ให้รอลงอาญา เนื่องจาก อาทิตย์ (๑)  ถูกบาปเคราะห์จรเบียนอย่างยับเยิน คือ มีราหู (๘) มฤตยู (๐) เล็ง มีเนปจูน (น) เกตุ (๙) ทำมุมปลายหอกทั้งสองจุด และมีจันทร์ (๒) เจ้าเรือนมรณะ จรเข้ามาทับ และสาเหตุที่ทำให้ไม่ติดคุกก็คือ ดาวพฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนลัคน์ในพื้นดวง ที่อยู่ในภพการเงิน นำหน้าลัคนานั้น ได้รับกระแสที่ดีจากศุภเคราะห์หลายดวง คือ มีศุกร์ (๖) และจันทร์ (๒) มหาอุจ ตรีโกณทั้งสองจุด มีแบคคัส (บ) เล็ง จึงได้รับความปราณีจากศาลสถิตยุติธรรม ซึ่งก็คือ พฤหัสบดี (๕) ให้รอลงอาญา และทำงานสาธารณะ ทำคุณ ไถ่โทษแทน

ครับ ดวงชะตาของหนุ่ม ศรราม พระเอกหนุ่ม อนาคตก้าวไกลในวงการผู้นี้ ถือเป็นดวงครูอีกดวงหนึ่ง ที่นักศึกษาโหราศาสตร์ ควรเรียนรู้เอาไว้ และยังเป็นคติเตือนใจ ดารา นักร้อง นักแสดง ตลอดจนท่านทั้งหลาย ที่ทำงานหามรุ่ง หามค่ำ โดยไม่คำนึงถึงสุขภาพตนเอง อันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สิน ของตนเองและผู้อื่น อีกทั้งยังเป็นเครื่องยืนยันว่า สถิติดวงดาวที่เขากำหนดมานั้น ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะมาล้อเล่น เพราะนั่นคือ กรรมที่เขากำหนดเอาไว้ เมื่อถึงเวลาเมื่อไร ถึงตัวผู้ใด ผู้นั้นก็จะรู้ซึ้งถึงแก่นแท้แห่งสัจธรรม ความจริงด้วยตนเอง

ที่มา  สำนักโหรพลูโต

วิเคราะห์ดวงชะตา ศรราม เทพพิทักษ์ (๑)

ศรราม เทพพิทักษ์ ชื่อนี้เมื่อแรกเริ่มเข้าวงการแสดงใหม ๆ หลายท่านที่เป็นคอหนัง หรือ แฟนภาพยนตร์รุ่นเก่า คงจะนึกถึงนามสกุลที่คุ้นหู และนึกต่อไปว่า เกี่ยวข้องพัวพัน หรือเป็นอะไรกับดารานักแสดงเจ้าบทบาท รุ่นเก่าแก่ ชุมพร เทพพิทักษ์ ต่อมาภายหลังรู้ว่า เป็นทายาทสืบเชื้อสายโดยตรง ก็ให้ความเมตตาเอ็นดู คอยติดตามผลงานการแสดง และเมื่อเห็นว่า ฝีไม้ลายมือด้านการแสดง ไม่ได้น้อยหน้าไปกว่าพ่อผู้ให้กำเนิด ยิ่งทำให้ได้รับความสนใจ และการสนับสนุนจากผู้ชม จนได้ชื่อว่า เป็นดารานักแสดงเจ้าบทบาทคนหนึ่งของวงการ

                สำหรับวัยรุ่น วุ่นรัก หน้าใส สายเดี่ยว หรือ ไม่เดี่ยวก็ตาม พอได้ยินชื่อ “หนุ่ม ศรราม” เท่านั้น เป็นต้องกรี๊ดกร๊าด วาดฝัน แหม คนอะไร หล้อ....หล่อ แถมนิสัยน่ารัก แม้ข่าวในวงการเพื่อนนักแสดงจะตั้งฉายาว่า “ดาราจอมอำ” แต่ก็ไม่มีใครถือสาในความน่ารัก สุภาพ อ่อนโยน ขี้เล่น เป็นกันเอง ฯลฯ จนทำให้ดาราหนุ่มผู้นี้ เป็นที่รักของคนทั่วไป ทั้งคนในวงการ และนอกวงการ จึงได้รับความนิยมชมชอบ มีผลงานการแสดงอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาพยนตร์ ละคร และ งานเพลง ยิ่งในระยะหลัง มาจับงานด้านพิธีกรด้วยแล้ว สอบผ่านอย่างสบาย ๆ เรียกว่า มีความสามารถรอบด้านเลยทีเดียว

                ด้วยเหตุที่ทำงานหลายด้าน วันหนึ่ง ๆ พักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อต้องมาขับรถด้วยตนเอง เลยทำให้เกิดอาการ “หลับใน” ขับรถไปชนคนเก็บขยะ ตายคาท้องถนน จนทำให้ตนเองก็พลอยเจ็บตัว และ เกิดความเสียใจ แม้จะ “เฉียดคุก” มาได้ ไม่ต้องติดคุกทางกาย แต่ก็คงต้อง “ติดคุกทางใจ” ไปตลอดชีวิต นี่แหละหนอ สัจธรรม ความจริงของชีวิต ไม่มีใครหรอกครับ ที่อยากจะให้เรื่องร้าย ๆ เข้ามาในชีวิต ทุกคนต้องการแต่เรื่องดี

ๆ เข้ามาด้วยกันทั้งนั้น แต่ “กรรม” ที่ผูกพันกันมาหลายภพหลายชาติ หลายผู้หลายคน เมื่อมาบรรจบพบกันเมื่อไร เมื่อนั้นก็จะก่อให้เกิด “ผลกรรม” ตามมา ไม่ว่ากรรมดี หรือ กรรมชั่วก็ตาม ทุกคนเป็นทายาทของกรรม คือ ต้องรับผลของกรรมนั้น ตราบใด ที่กรรมนั้น ๆ ยังไม่สิ้นสุด หรือ ได้รับการอโหสิกรรม

ที่มา  สำนักโหรพลูโต

                จากประสบการณ์การศึกษาดวงชะตาต่าง ๆ มานานกว่า ๒๕ ปี ผมเชื่อมั่นว่า “ดวงชะตา” ที่โหรได้ผูกขึ้นมาอย่างถูกต้องนั้น จะเป็นเครื่องมือที่บ่งบอกถึง “กรรม” ที่บุคคลผู้นั้นเกิดมา จะต้องได้รับ หรือ ชดใช้กรรม ไม่ว่าดวงนั้นจะเป็นดวงเศรษฐี ผู้ดี ยาจก สามัญชนคนธรรมดา เจ้าขุนมูลนาย เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินก็ตาม ล้วนต้องรับกรรม คือ เป็นทายาทของกรรม ด้วยกันทุกรูปนาม ไม่เว้น แม้แต่ พระพุทธองค์ และ พระอรหันต์สาวก ก็ต้องรับกรรมในชาติภพสุดท้าย

                หนุ่ม ศรราม นั้น เขาได้กำหนดให้กำเนิดเกิดมา เป็นนักร้อง นักแสดง พิธีกร ที่มากด้วยความสามารถ มีชื่อเสียงต่อเนื่องยาวนาน ไม่มีตก จับงานอะไร หรือ ทำอะไร ล้วนดูดีไปหมด โดยเราจะเห็นว่า ในพื้นดวงกำเนิด (ด้านซ้ายมือ) ของเขานั้น ลัคนาอยู่ในราศีธนู มีราหู (๘) กุมลัคน์ ซึ่งราหู (๘) ในทางโหราศาสตร์ คือ คราสร้าย ที่ทำให้เกิด เงามืดเข้ามาบดบัง

ดังนั้น จึงหมายถึง การแสดงภาพยนตร์ หรือ ละคร ที่ต้องใช้แสง ใช้เงา ฉายขึ้นไปบนจอภาพ หรือ ส่องออกมาจากจอโทรทัศน์ ยิ่งในดวงของศรรามนั้น จะเห็นชัดเจนมาก เมื่อพุธ (๔) เจ้าเรือนการงาน ทำมุมร่วมธาตุ กับราหู (๘) ในภพศุภะ ที่หมายถึง เกียรติยศชื่อเสียง ความเจริญก้าวหน้า สำเร็จอย่างงดงาม โดยมีอาทิตย์ (๑) เกษตร เจ้าเรือนศุภะ กุม และทำมุมตรีโกณถึง

พุธ (๔) หมายถึง การพูด การเจรจา การขีดเขียน ขับร้อง เมื่อเป็นเจ้าเรือนการงาน อยู่ในภพศุภะ กุมอาทิตย์ (๑) เกษตรเจ้าเรือน จึงทำให้หนุ่ม ศรราม ออกผลงานเพลงถึง ๓ อัลบั้ม และได้รับความนิยม และ ขายดีทุกอัลบั้ม เรียกว่า โดนใจวัยรุ่น อย่างจัง

ดวงศิลปิน นักร้อง นักแสดงทุกคน ล้วนมีดาวศุกร์ (๖) ดาวศิลป การบันเทิง เด่น สัมพันธ์กับลัคนา หรือ ดาวเจ้าเรือนลัคน์ ในดวงของหนุ่ม ศรราม นั้น ดาวศุกร์ (๖) เป็นดาวเจ้าเรือนลาภะ หมายถึง ลาภผล ความพึงพอใจ ลอยอยู่ในภพกัมมะ จึงทำให้หนุ่มเป็นคนอารมณ์ดี รักสนุก เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียง โดยที่ดาวศุกร์ (๖) น้น กุมกับดาวมฤตยู (๐) ซึ่งเป็นดาวที่มีความหมายถึง การศึกษาค้นคว้า ท่องเที่ยว เดินทาง ไฟฟ้า อิเลคโทรนิค การเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน

จึงส่งผลทำให้หนุ่ม ศรราม รับงานแสดงหลายรูปแบบ แตกต่างกันไป เดี๋ยวเล่นเป็นพระ เล่นเป็นโจร เล่นเป็นเจ้า เล่นเป็นตำรวจ ทหาร ฯลฯ สารพัด สารพัน ทุกรูปแบบ ล้วนดูดีไปหมด ทั้งนี้เนื่องจาก ดาวพฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนลัคน์ และเป็นดาวที่มีความหมายถึงเกียรติยศ ชื่อเสียง ความดีงาม ความสำเร็จ เดินนำหน้าลัคนา และ ทำมุมตรีโกณถึงดาวศุกร์ (๖) ดาวมฤตยู (๐) นั่นเอง

ในภพกัมมะ ยังมีดาวอีกดวงหนึ่ง ที่อยู่ร่วมกับศุกร์ (๖) และ มฤตยู (๐)

คือ ดาวพลูโต (พ) เจ้าเรือนปุตตะ หมายถึง เด็ก บุตร บริวาร สัตว์เลี้ยง ลูกน้อง ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา จึงทำให้หนุ่มต้องทำงานข้องแวะกับเด็ก ๆ ทำงานร่วมกับดาราเด็ก หรือ มีเด็กเข้ามาเกี่ยวข้องพัวพัน โดยเฉพาะแฟนคลับของหนุ่มนั้น ล้วนแต่เป็นเด็กเอ๊าะ ๆ ทั้งนั้น

คำว่า “ปุตตะ” นอกจากความหมายดังกล่าวข้างต้น ยังหมายถึง การงานที่ทำด้วยใจรัก ไม่รู้สึกเบื่อหน่าย งานที่ทำแล้วสบายใจ หรือ งานที่ได้เงินมาง่าย ๆ เป็นกอบเป็นกำ งานที่ทำแล้วคุ้มค่าเหนื่อย ได้รับความรัก ความเมตตา ความศรัทธาจากคนทั่วไป เช่น งานอาชีพครูอาจารย์ ผู้กำกับการแสดง พิธีกร ที่ต้องควบคุม และดำเนินรายการ เป็นงานเด่น ที่ต้องใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะตัว

ดูรูป ดูจริต ให้ดูจันทร์ (๒) โบราณท่านว่าไว้ เราจะเห็นว่า ในพื้นดวงของหนุ่มนั้น ดาวจันทร์ (๒) เด่นเป็นมหาอุจ ทำมุมร่วมธาตุกับ พฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนลัคน์ โดยมี ดาวศุกร์ (๖) ดาวแห่งความสวยงาม หน้าตาดูดีมีเสน่ห์ ตรีโกณ มีแบคคัส (บ) มหาลาภ โยคหน้า และอยู่ในเรือนจันทร์ (๒) คือ แลกเรือนกัน จึงทำให้หนุ่มเป็นนักแสดง ที่หน้าตาดี มีเสน่ห์ ต่อผู้พบเห็น หรือ คบค้าสมาคมด้วย ไม่ว่า เด็ก ผู้ใหญ่ หรือ วัยเดียวกัน

ใครที่เห็นดาวจันทร์ (๒) อยู่ในภพอริ มรณะ  วินาศนะ แล้วหลับหูหลับตาทำนายไปว่า รูปจริตไม่งาม ขาดเสน่ห์ล่ะก็ อย่าริเป็นหมอดูเชียวนะ เพราะมาเจอดวงนี้เข้าล่ะก็ หน้าแตก หมอไม่รับเย็บแน่ เนื่องจากดวงของหนุ่มนั้น จันทร์ (๒) อยู่ในภพอริ แถมยังถูกบาปเคราะห์เบียนอย่างหนักอีกด้วย คือ มีเนปจูน (น) เล็ง เสาร์ (๗) เกตุ (๙) บีบหน้า อังคาร (๓) บีบหลัง ราหู (๘) ทำมุมปลายหอกทิ่มแทง

ลักษณะของบาปเคราะห์ที่ให้โทษจันทร์ (๒) เช่นนี้ ไม่ได้ส่งผลร้าย หรือ ผลเสียในเรื่องของรูปจริต แต่ส่งผลร้ายในเรื่องของ “อุบัติเหตุรถยนต์"

ตามที่ปรากฎเป็นข่าว เนื่องจาก ดาวจันทร์ (๒) นั้น หมายถึง ยานพาหนะ การเดินทาง เพราะเป็น “พันธุโลกธรรม” แถมยังเป็นดาวครองวัย ๓๑ ถึง ๔๐ ปี วัยที่หนุ่มได้รับเคราะห์ คือ อายุ ๓๓ ปี ดาวจันทร์ (๒) เจ้าเรือนมรณะ เสวยอายุ ดาวพฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนลัคน์ และ เป็นดาวที่หมายถึง เกียรติยศชื่อเสียง คดีความ เสวยแทรก

การที่หนุ่มไม่ได้รับอันตรายมากมาย ถึงกับบาดเจ็บสาหัส หรือ ล้มตาย เป็นเพราะ พฤหัสบดี (๕) ดาวเจ้าเรือนลัคน์ ดาวที่มีความหมายถึง กรรมดี สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พ่อแม่ ครู อาจารย์ คุ้มครองป้องกัน อีกประการหนึ่ง เท่าที่ผมสังเกตเห็นก็คือ ราหู (๘) ที่กุมลัคน์ ไม่ว่าในดวงชะตาผู้ใด หากมีราหู (๘) กุมลัคน์ หากเกิดเหตุเพทภัยใด ๆ เข้ามารังควาน หรือ มีบาปเคราะห์อื่นใด จรมาให้โทษ มักจะทำอะไรเจ้าชะตาไม่ได้ เนื่องจากได้รับการคุ้มครองจากราหู (๘) เรียกว่า “เด็กของข้าใครอย่าแตะ” นั่นเอง

ดวงหนุ่ม ศรราม เป็นดวงชะตาที่ดีเด่น มีวาสนาสูง เป็นที่นิยมชมชอบของมหาชน เพราะได้เกณฑ์ดวงมาตรฐาน “ดวงตรีโกณ” ถึง ๒ ชั้น คือ ชั้นที่ ๑ มีราหู ((๘) กุมลัคนา มีอังคาร (๓) ตรีโกณในภพปุตตะ และมี อาทิตย์ (๑) เกษตร พุธ (๔) ตรีโกณในภพศุภะ, ชั้นที่ ๒ พฤหัสบดี (๕) เจ้าเรือนลัคน์ ที่อยู่ในภพกฎุมพะ (การเงิน การติดต่อสือสาร การเจรจา) นำหน้าลัคนา มีดาวจันทร์ (๒) มหาอุจ ตรีโกณในภพปุตตะ (ของพฤหัสบดี ดาวเจ้าเรือนลัคน์)

และมีดาวพลูโต (พ) ศุกร์ (๖) มฤตยู (๐) ตรีโกณในภพศุภะ (ของพฤหัสบดี ดาวเจ้าเรือนลัคน์)

จะเห็นได้ว่า ดาวที่อยู่ในตำแหน่งตรีโกณทั้ง ๒ ชั้น เป็นดาวที่มีศักดิ์สูงถึง ๒ ดวง คือ อาทิตย์ (๑) เกษตร และ จันทร์ (๒) มหาอุจ ยิ่งส่งผลให้ดวงชะตา ประสบความสำเร็จ เจริญรุ่งเรือง สมบูรณ์พูนสุข มีเกียรติยศชื่อเสียง ตามลักษณะของดาวอาทิตย์ (๑) เกษตร และ เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม เป็นที่รักใคร่ นับหน้าถือตา เป็นดารานิสัยดี ไม่มีข่าวคาวในวงการ เป็นดาวค้างฟ้า ไม่ร่วงหล่นลงมาง่าย ๆ ตามลักษณะของจันทร์ (๒) ที่เป็นมหาอุจ

มาพิจารณาดาวการเงินในพื้นดวงหนุ่ม เมื่อหนุ่มเป็นดารา นักร้อง พิธีกร ที่มีความสามารถหลากหลาย มีผลงานมากมาย ย่อมจะส่งผลถึงลาภผลทางการเงิน เศรษฐกิจรายได้ที่งดงาม เป็นกอบเป็นกำ ดังนั้น ดาวเจ้าเรือนการเงินต้องอยู่ในตำแหน่งที่ดี หรือ มิฉะนั้น ต้องได้รับกระแสที่ดีจากดาวศุภเคราะห์หลายดวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ดาวแบคคัส (บ) ดาวการเงินโลกธรรม ดาวที่บ่งบอกว่า เจ้าชะตาจะมีรายได้สูง มีโอกาสเป็นเศรษฐีหรือไม่ ต้องพิจารณาดาวดวงนี้ว่า สัมพันธ์กับดาวเจ้าเรือนการเงิน ลัคนา และ ดาวเจ้าเรือนลัคนาหรือไม่ทุกครั้งไป

ในพื้นดวงชะตาของหนุ่มนั้น ดาวเสาร์ (๗) ดาวเจ้าเรือนการเงิน อยู่ในภพปัตนิ ถือว่า อยู่ในตำแหน่งที่ดี คือ ไม่ใช่ภพทุสถานะ อริ มรณะ วินาศนะ กุมกับเกตุ (๙) เกษตร มีดาวแบคคัส (บ) นำหน้า มีดาวจันทร์ (๒)

มหาอุจ ตามหลัง (ศุภเคราะห์โอบอุ้มหน้าหลัง ให้คุณ ยิ่งแลกเรือนเกษตรในลักษณะเช่นนี้ ย่อมให้คุณมากขึ้น) มีอาทิตย์ (๑) เกษตร โยคหน้า มีพุธ (๔) โยคหน้า มีศุกร์ (๖) จตุโกณ ถือได้ว่า เสาร์ (๗) เจ้าเรือนการเงิน มีศุภเคราะห์ และดาวที่มีศักดิ์สูง  ดาวมหาลาภทางการเงิน โอบอุ้มหน้าหลัง และพาดผ่านหลายดวง จุดนี้เอง ที่ทำให้หนุ่มทำงาน เป็นดารา นักร้อง พิธีกร หรือจับงานต่าง ๆ ล้วนทำเงินทำทองให้เป็นกอบเป็นกำ

แต่ก็นั่นแหละครับ เรื่องของเงินทอง ไม่เข้าใครออกใคร มีเข้ามาได้ก็ต้องไหลออกไปได้ หนุ่ม ศรราม จะเป็นเศรษฐีตัวจริง เสียงจริงได้หรือไม่ หรือเป็นได้นานแค่ไหน ก็ต้องพิจารณาดูว่า ดาวการเงินในพื้นดวงนั้น ถูกเบียนมากน้อยแค่ไหน มีบาปเคราะห์ หรือ ดาวร้าย ดาวที่ให้โทษ อยู่ในเรือนการเงินหรือไม่ เป็นดวงชะตา ที่จะต้องถูกโกง ลงทุนแล้วสูญ หรือ ไปกู้หนี้ยืมสินเขามาใช้ เพื่อทำกิจการ แล้วเกิดการผิดพลาด หรือ มีคดีความฟ้องร้อง ต้องสูญเสียเงินทองเป็นจำนวนมาก เพื่อให้พ้นคดี หรือ ผ่อนหนักให้เป็นเบาหรือไม่ คราวหน้า เราจะมาพิจารณาเรื่องของดาวการเงินต่อไป อย่าพลาดการติดตามนะครับ