วันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2553

มรณะกรรมโดยอุบัทวเหตุ

หญิงเป็นลมตายขณะแสดงลิเก
๑๕ พ.ย. ๒๔๗๕
๑๑.๔๕ น. ( ซ้าย)

วันที่เสียชีวิต
๑๐ พ.ย. ๒๕๐๕ (ขวา)

ผู้ที่ถึงแก่กรรมโดยอุบัทวเหตุส่วนมากมีบาปเคราะห์ถึงลัคนามาก  เช่นในมุมโยคหรือจตุโกณทุกจุด หรือตรีโกณหรือเล็ง  และในภพมรณะมักมีบาปเคราะห์
ชุมนุมอยู่หรือดาวมรณะมากุมลัคน์หรือลอยอยู่ภพที่ ๑๐

ดาวพระเคราะห์ในชะตามักมีดาวคู่ต่อไปนี้คือ ๗ กับ๐,
๗ กับ ๓ , ๗ กับ เนปจูน, เนปจูนกับอังคาร, ๑กับ ๓,
๓ กับ ๘, ๘ กับ ๐, ๘ กับ เนปจูน, ๐ กับ ๓,๐ กับเนปจูน,
ดาวเหล่านี้กุมกันหรือเล็ง  หรือสัมพันธ์ถึงกันอย่าง
เห็นชัดหรือสัมพันธ์ถึงลัคนาทั้งพื้นดวงและดาวจร
และในภพที่ ๑๐ มักมีดาวให้
โทษสถิตอยู่

ดังตัวอย่างดวงนี้
๑.เสาร์กุมลัคน์ราหูนำหน้า มฤตยูโยคหน้า มีดาว๑ มรณะ
เป็นนิจอยู่ภพที่ ๑๐ ผู้ที่มีดาวมรณะอยู่ภพที่ ๑๐
ให้ระวังจะตายด้วยอุปัทวเหตุ  มีบาปเคราะห์ ๓ร่วมกับ ๕
วินาศ ในภพมรณะ ๘ เล็ง
๒.วันมรณะ ดาว ๗ ทับ ลัคน์ มีบาปเคราะห์๘ ร่วมกับ ๓
มรณะเล็ง
๓. ดาว ๑ เจ้าเรือนมรณะโคจรเข้าภพที่ ๑๐ทับตัวเอง
ทำให้มีลางมรณะเกิดขึ้นในภพกัมมะ คือ ตายในระหว่าง
ทำงาน
๔.เมื่อมรณะนั้น ดาว ๖ นิจอันเป็นดาวให้โทษเสวยอายุ
ดาวพุธแทรก  พุธเป็นเจ้าเรือน ศุกร์นิจ ซึ่งอยู่ในเรือนอังคาร  อังคารเจ้าเรือนมรณะจึงให้โทษยิ่งนัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น